BEAUTY โชว์รายได้ Q3/66 โต 51.31% Q4/66 เข้าไฮซีซั่นธุรกิจ เดินหน้าปั๊มยอดขายทั้งใน-ตปท.

171

มิติหุ้น  –  ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/66  บริษัทมีรายได้ 103.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.31% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 68.65 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ  11.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 58.13 % ที่มีขาดทุนสุทธิ 26.64 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 342.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.49% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 262.34 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 20.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 63.60 % ที่มีขาดทุนสุทธิ 55.36 ล้านบาท

            สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งจุดจำหน่าย  ในโมเดิร์นเทรดและออนไลน์ อีกทั้งบริษัทได้เปิดร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ในทำเลศักยภาพ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว กำลังซื้อจากต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศจีนที่ทยอยกลับมา อีกทั้งประเทศอื่นๆ มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทมีการพัฒนาด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม BEAUTY & WELLNESS ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

            นายพิศาล ธาราพัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/66 คาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นธุรกิจ ประกอบกับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดครบรอบ 16 ปี BEAUTY BUFFET จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จะช่วยผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ และสามารถพลิกกลับมามีกำไร ทั้งนี้บริษัทจะขยายช่องทางจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและความนิยมของลูกค้า

            โดยแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายในประเทศ  ช่องทางโมเดิร์นเทรดคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 3,219 จุดจำหน่าย โดยมีแผนจะเพิ่มจำนวนรายการสินค้าเข้าจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง  และสำหรับช่องทางร้านค้าปลีก ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ BEAUTY BUFFET SHOP จำนวน 10 สาขาในปีนี้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง ในทำเลศักยภาพ มีกระแสตอบรับที่ดี จากทั้งลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์แบบ O2O เต็มรูปแบบ

            ปัจจุบันบริษัทมีร้านค้าปลีก BEAUTY BUFFET SHOP รูปแบบใหม่รวม 9 แห่ง ได้แก่ อยุธยาซิตี้พาร์ค, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ, สยามสแควร์วัน, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า,  เซ็นทรัล ระยอง, โลตัส ศรีนครินทร์, แพลตินั่ม และมาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน

            ส่วน E-Commerce จะเน้นเพิ่มความสามารถการนำฐานข้อมูลลูกค้าเก่าและใหม่มาใช้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมความสนใจผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน พัฒนาแพลตฟอร์มและแคมเปญการตลาดให้มีความหลากหลายทั้งในเว็บไซต์ของ BEAUTY BUFFET และ Market Place ชั้นนำ อาทิ KONVY Shopee Lazada

            ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายใน 12 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ซาอุดิอาระเบีย ฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว มาลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น โดยในช่วงต่อจากนี้จะโฟกัสกลุ่มประเทศจีนและตะวันออกกลาง (Middle East) ซึ่งยอดขายในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัญญาณที่ดี มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon