มิติหุ้น – บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR) แย้มผลงานไตรมาส 4/66 โตแกร่ง ทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจกลุ่มผลิตเม็ดพลาสติก และดาวเด่นธุรกิจใหม่พลังงานทดแทน “Floating Solar” สร้างรายได้จากงานออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (EPC) มูลค่าโครงการกว่า 347 ล้านบาท ฟากผู้บริหาร “พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์” สั่งลุยเพิ่มรายได้ทุกหน่วยธุรกิจเต็มพิกัด รุกขยายฐานลูกค้าใหม่ เตรียมเข้าประมูลงานด้านพลังงานทดแทนโครงการของภาครัฐ – เอกชนรายใหม่ต่อเนื่อง เน้นกลยุทธ์ลดต้นทุน เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคง
นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ (Masterbatch) เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ (Compound) และสีผสมพลาสติกชนิดผง (Dry Colorant) เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 /2566 บริษัทฯคาดว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถทำผลงานได้สูงสุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากกลุ่มธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทดแทนประเภท ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ซึ่งบริษัทได้รับงานอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ของบริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/2566 นี้ ซึ่งบริษัทฯ รับเป็นผู้ออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (EPC) การผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) มูลค่าโครงการรวม 347.22 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) (PLANET) ซึ่งปัจจุบันดำเนินการติดตั้งกว่า 90% โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ ประมาณ 50 – 70 % ของมูลค่าโครงการ และที่เหลือรับรู้ได้ในปีถัดไป
ขณะที่ธุรกิจเม็ดพลาสติก มีกำลังซื้อที่มีเข้ามาต่อเนื่องตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกประเภทสินค้าบรรจุภัณฑ์ อุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์พลาสติกเกี่ยวข้อง รวมทั้ง ในช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ที่สนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯ
“ปีนี้เป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับบริษัทฯ ซึ่งรู้สึกพอใจผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ที่ออกมายังรักษาระดับรายได้ที่ใกล้เคียงกัน เมื่อเทียบไตรมาส 1/2566 และไตรมาส 2/2566 หลักๆ มาจากการปรับตัวลงของราคาวัตถุดิบในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้สามารถารแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีความต้องการสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในไตรมาส 4/2566 จะเห็นผลงานที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการรับรู้รายได้เพิ่มของธุรกิจพลังงานทดแทน Floating Solar ” นายพีรพันธ์ กล่าว
รวมถึงบริษัทฯ จะเร่งสร้างรายได้เพิ่มเพื่อการเติบโตแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น โดยการขยายธุรกิจทุกรูปแบบในทุกหน่วยธุรกิจ ควบคู่กับการสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก และธุรกิจใหม่ พลังงานทดแทน ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และธุรกิจภาคการเกษตร รวมทั้งการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เร่งหาลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญาเข้ารับงาน มูลค่ารวมประมาณ 85 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานภาครัฐและเอกชน คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ สนับสนุนการสร้างรายได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน จะควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนอีกด้วย โดยรายได้ปีนี้คาดว่าจะใก้ลเคียง จากปีก่อนมีรายได้รวม 1,256 ล้านบาท
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินไตรมาส 3 ปี 2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้ 290 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ทำได้ 322 ล้านบาท และกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 16.66 ล้านบาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon