5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคเช้า

113

อันดับที่ 1 PSH ส่อแววกำไรสุทธิปีนี้โต 11.2% หลังยอดขาย-ยอดโอนขยายตัวต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เออีซี  โดย ฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการประเมิน พฤกษา โฮลดิ้ง  หรือ PSH พบว่า ปี61 จะมีกำไรสุทธิโต 11.2%  หนุนด้วยเป้าPresale ปีนี้ที่ 5.37หมื่นลบ. เติบโต 13.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเป้ายอดโอนปีนี้ที่ 5.05หมื่นลบ. เติบโต14.9%  ส่วนด้านราคาหุ้นมองว่า ปัจจุบันยังมี Upside 28.8% จึงแนะนำ “ซื้อ”  ด้านนายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮ้าส์  PSH เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายกลุ่มธุรกิจทาวเฮ้าส์ที่ 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพและปริมณฑล 19,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 3,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกทำได้แล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท ด้านยอดโอนมั่นใจว่าจะทำได้ 23,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดโอน 22,000 ล้านบาท

อันดับที่ 2 “ธนชาต” เร่งสปีดเข้าถึงลูกค้ารวดเร็ว ดันพอร์ตสินเชื่อใหม่โต 10-15% หลังจากสิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.8 แสนลบ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยนายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว สำหรับตลาดรถยนต์ใหม่ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ โตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงคาดว่าครึ่งปีหลังจะโตขึ้นอีก สำหรับภาพรวมทั้งปี 2561 ตลาดรถยนต์ใหม่น่าจะโตมากกว่าปี 2560 ประมาณ 10% ประมาณการที่ 9.5 แสน – 1 ล้านคัน เติบโตจากปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 870,000 คัน ส่วนตลาดรถยนต์เก่ายังคงเติบโตเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นเดือน มี.ค.2561 ธนาคารธนชาตมียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์แล้ว 380,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 % จากปีที่แล้ว เทียบกันปีต่อปี โดย 70% เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่, 20% เป็นสินเชื่อรถยนต์มือสอง ส่วนที่เหลือ 10% เป็นสินเชื่อรถแลกเงิน

อันดับที่ 3 กูรู ส่อง GGC พบราคาสะท้อนข่าวร้ายแล้ว แถมเช้านี้ราคาวูบลงต่อเนื่อง

บล.โกลเบล็ก โดย ฝ่ายนวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการประเมิน บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล หรือ GGC พบว่า จากที่เกิดกรณีแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการตรวจพบกระบวนการจัดหาวัตถุดิบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดย ณ วันที่ 31 พ.ค.61 พบปริมาณวัตถุดิบคงคลัง จำนวน 71,848 ตัน ซึ่งบริษัทชำระราคาไปแล้ว ขาดหายไป คิดเป็นมูลค่ารวม 2.1 พันล้านบาท  ทั้งนี้การประเมินเบื้องต้น วัตถุดิบคงคลังขาดหายไปมูลค่าราว 2.1 พันลบ.นั้นฝ่ายวิจัยประเมินความเสียหายเบื้องต้นจากข่าวดังกล่าวอยู่ที่ราว 2.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลงตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวแล้ว  ส่วนด้านPTTGC  จะมีผลกระทบประมาณ 0.3-0.5 บาทต่อหุ้น

อันดับที่ 4 PTTGC กำไรQ2ยังแกร่งโต73% GGCกระทบเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า ยังคงประเมินกำไรสุทธิไตรมาส2/61 ของ PTTGC จะมีกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 73% เทียบกับไตร เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะได้รับผลกระทบจาก บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล หรือ GGC ในกรณีวัตถุดิบคงคลังที่หายไปก็ตาม อย่างไรก็ตามคาดมีรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและผลของการตั้งสำรองจากบริษัทย่อย (GGC) รวม 2.4 พันล้านบาท แต่จะได้กำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1.6 พันล้านบาท เข้ามาชดเชยผลกระทบส่วนนี้ได้บางส่วน ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2561 ที่  111 บาท

อันดับที่ 5 MC หลังจากนี้โกยทรัพย์แหลก   พร้อมมองโค้ง2 โตสวยหลังอัดโปรฯต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บล.ธนชาต โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  เปิดเผยว่า จากการประเมิน แม็คกรุ๊ป  หรือ MC พบว่า กำไรสุทธิจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากช่วงไตรมาส 1/2561 ที่ MC สามารถทำกำไรสุทธิได้  232 ลบ. คิดเป็น 30% ของกำไรสุทธิรวมทั้งปี  เนื่องด้วยการบริโภคมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวขึ้นเป็นอย่างมทาก และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เชื่อว่าจะได้ผลตอบรับที่ดี   ดังนั้นจึง แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 15.40 บ. ทั้งนี้ด้าน ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทิสโก้  เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2/2561 ของ MC จะเติบโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน   ตามการฟื้นตัวของการใช้จ่ายที่ดี ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 14.80 บาท

www.mitihoon.com