อันดับที่ 1 GPI อุตฯยานยนต์ปีนี้โตไม่หยุด ดันผลงานทุบนิวไฮ-รายได้โตตามเป้า20-25%
ผู้สื่อข่าว “ มิติหุ้น” รายงานว่า นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการตลาดและการขาย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในปีนี้จะเติบโตได้ดี หลังได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศและส่งออกที่มีอัตราการเติบโตที่ดีในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตยานยนต์จากญี่ปุ่นและแถบยุโรปวางแผนแข่งขันกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถและเร่งทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายพร้อมกันนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้รวมจะเติบโตได้ตามเป้า 20-25 %
อันดับที่ 2 BEAUTY หมดความเซ็กซี่ หลังผลงานส่อแววทรุด มองระยะสั้นไม่ควรลงทุน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โดย นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน เปิดเผยว่า กรณีที่ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY มีมติซื้อหุ้นคืน โดยใช้วงเงินสูงสุด 950 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 64 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.13% ของหุ้นทั้งหมด โดยการเข้าซื้อดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อเต็มวงเงินทั้งหมด โดยหากราคายังไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสม เชื่อว่าบริษัทจะไม่มีการเข้าซื้อเพื่อไล่ราคาให้ปรับตัวขึ้นไป ในระดับราคาที่ตั้งไว้ ดังนั้นการลงทุนขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของนักลงทุนที่สามารถรับได้ ซึ่งต่อไป ราคามีโอกาสลดลงได้อีก โดยระยะสั้นนั้น ไม่แนะนำให้ลงทุน พร้อมต้องจับตาอย่างใกล้ชิดถึงการดำเนินงานครึ่งปีหลังว่าจะฟื้นได้หรือไม่
อันดับที่ 3 DOD ราคางวิ่งบวกกว่า 10% ภายใน 3วัน สะท้อนผลงานQ2-ทั้งปี โตเจิดจรัส
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานความเคลื่อนไหว ราคาหุ้น บมจ. ดีโอดี ไบโอเทค หรือ DOD พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะ 3วันทำการ จากเมื่อวันที่ 5 ก.ค.61 มีราคาปิดอยู่ที่ 12 บาท โดยภายในวันนี้ (10ก.ค.61) มีราคาสูงสุดที่ 13.30บาท เพิ่มขึ้น 1.30บาท หรือ 10.80% ทั้งนี้ด้าน นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ DOD เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขายโรงงานใหม่ที่ทำให้กำลังการผลิจสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และยังมีออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมยังมั่นใจว่าผลงานทั้งปีจะเติบโตจากปีก่อนด้วยเช่นกัน
อันดับที 4 BCP ตั้งเป้า รักษาระดับกำไรใกล้เคียงปีก่อน คาดกำไรสต๊อกน้ำมัน ค่าการกลั่น บริษัทลูกหนุน เตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปิโตรเลียมนอร์เวย์ ลุยลงทุนเหมืองลิเทียม 2 แห่งปี 63
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP ผู้ประกอบการน้ำมัน โดยนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า BCP ตั้งเป้ารักษาระดับกำไรสุทธิและรายได้รวมให้ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่มีรายได้รวม 175,449 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,778 ล้านบาท โดยคาดว่าปริมาณการกลั่นปีนี้จะอยู่ในระดับ 101,000 บาร์เรล ซึ่งยังอยู่ในระดับที่สูงแม้จะต่ำกว่าปี 2560 ที่มีกำลังการกลั่นในระดับ 111,000 บาร์เรลต่อวันก็ตาม เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 45 วันในช่วงไตรมาส 2/61 ทำให้ปริมาณการกลั่นลดเหลือราว 60,000 บาร์เรลต่อวัน
อันดับที่ 5 SCC กูรูชี้ราคา 400-425บ.ให้รีบเก็บ ถือยาวรอปันผล 4.5%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ผู้ประกอบการปูนซีเมนต์ และปิโตรเลียมโดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/61 อาจจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 12,406 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในระดับสูงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นทำให้ส่วนต่างราคา (สเปรด) HDPE เทียบกับ Naphtha นั้นปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลัง 2561 คาดว่าผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ตามทิศทางขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ส่วนภาพรวมปี 2561 โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินเงินปันไว้ที่ 19 บาทต่อหุ้นอัตราผลตอบแทนที่ 4.5% และประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 500 บาท
www.mitihoon.com