DITP จับมือ 2 ยักษ์ใหญ่ภาคเอกชน เตรียมจัด “THAIFEX – ANUGA ASIA 2024”

89

มิติหุ้น  –  กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี ประกาศจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย THAIFEX – ANUGA ASIA 2024” ในวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด Beyond Food Experience ที่เป็นมากกว่างานแสดงสินค้าอาหาร โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ซูเปอร์สโตร์ ร้านอาหาร และผู้ที่กำลังมองหาไอเดียในการทำธุรกิจ ได้มาค้นหาคู่ค้า และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมอัปเดตเทรนด์สินค้า และแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค เพื่อต่อยอดสู่ความสำเร็จที่มากขึ้น เปิดเจรจาธุรกิจทั้ง 5 วัน และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและซื้อสินค้าได้ในวันสุดท้ายของการจัดงาน

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกของไทย โดยในปี 2566 การส่งออกสินค้าอาหาร ขยายตัว 2.7% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 39,892.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.37 ล้านล้านบาท สำหรับปี 2567 คาดว่าการส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 40,690.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 1.4 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ที่ฟื้นตัวตามภาคบริการและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนที่เป็นผลดีต่อภาคการส่งออกของไทย นอกจากนี้ ปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง จึงทำให้ความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มมากขึ้น

“THAIFEX – ANUGA ASIA จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพราะเป็นเวทีการค้าระดับโลกที่จะสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ งานนี้นอกจากจะเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพของไทยในฐานะผู้นำในการผลิตและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ตามนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกของกระทรวงพาณิชย์ แล้วยังรวบรวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจตามหลักสากล มุ่งเน้นความยั่งยืน ตลอดจนปฏิบัติตามหลักมาตรฐานแรงงาน มาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดงานกว่า 3 ทศวรรษ งานนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงการอาหารและเครื่องดื่มของโลก จนกล่าวได้ว่าเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในภูมิภาคเอเชีย” นายภูสิต กล่าว

สำหรับ THAIFEX – ANUGA ASIA ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ารวมกว่า 3,000 บริษัท มากกว่า 6,000 คูหา จาก 50 ประเทศ และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานตลอดทั้ง 5 วัน เป็นจำนวน 80,000 ราย จากทั่วโลก ประมาณการมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าจากงานปีนี้รวมกว่า 100,000 ล้านบาท

ภายในงานจะรวบรวมสินค้ามาจัดแสดงอย่างครบครัน แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่ ชาและกาแฟ, เครื่องดื่ม, อาหารสำเร็จรูป, บริการด้านอาหาร, เทคโนโลยี, อาหารแช่แข็ง, ผักและผลไม้, เนื้อ, ข้าว, อาหารทะเล, ขนมและของขบเคี้ยว

นอกจากนี้ ยังเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ร่วมงาน ด้วยพื้นที่แสดงสินค้าพิเศษ 6 โซน ได้แก่ THAIFEX – ANUGA Future Food Market, THAIFEX – ANUGA Halal Market, THAIFEX – ANUGA Organic Market, THAIFEX – ANUGA Startup, THAIFEX – ANUGA tasteInnovation Show และ THAIFEX – ANUGA Trend Zone และยังมีนิทรรศการ อาทิ Thai SELECT Pavilion รวมทั้งการเสวนาให้ความรู้ และกิจกรรมเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ เป็นต้น

“กิจกรรมที่จัดขึ้นจะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ อาทิ เทรนด์อาหารในปัจจุบัน ความต้องการของผู้บริโภค และความเคลื่อนไหวของตลาด เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อต่อยอดสู่ความสำเร็จที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในอนาคต” นายภูสิต กล่าว

ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ปี 2566 ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 12 ของโลก ปรับตัวจากอันดับที่ 15 ในปี 2565 ซึ่งงาน THAIFEX – ANUGA ASIA นับเป็นแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จ และมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทย ทั้งที่เป็นรายใหญ่ เอสเอ็มอี สตาร์ตอัป ที่จะมีโอกาสได้นำสินค้าเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ งานนี้ยังติดอันดับงานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมอาหารอันดับที่ 4 ของโลกอีกด้วย

“THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 มีไฮไลต์ที่น่าสนใจกว่าทุกปี โดยเฉพาะนวัตกรรมอาหารที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงกระแส แต่จะเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ทุกคนเริ่มหันมาใช้อย่างจริงจัง” ดร.กฤษณะ กล่าว

ตัวอย่างไฮไลต์ที่จะนำมาจัดแสดงในปีนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตที่ช่วยลดคาร์บอน เช่น ชีสที่ทำจากถั่วเหลืองออร์แกนิกที่ลดการปล่อย CO2 ถึง 80%, นมโอ๊ตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก และถุงมือ food grade จากธรรมชาติที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบ ถูกต้องตามหลักการ เป็นที่ยอมรับในสากล และยังมีผลิตภัณฑ์ที่ลดการเกิดขยะจากอาหาร เช่น ขนมที่ทำจากเศษกล้วยจากกระบวนการผลิตกล้วยทอด, รองเท้าบูธที่รีไซเคิลจากฟิล์มถนอมอาหารที่เกิดจากการคัดแยกพลาสติกเหลือทิ้ง, ปุ๋ยอินทรีย์ที่ที่ผลิตจากเปลือกทุเรียนเหลือทิ้ง, นมจากผงและเมล็ดที่แตกของมะม่วงหิมพานต์ และผลิตภัณฑ์จากเมล็ดมะขามที่เป็นวัสดุเหลือทิ้ง ที่สามารถนำไปประกอบในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เจลลี และแยม

นอกจากนี้ ยังมีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนของโลก เช่น บรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับใส่อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ด้วยหมึกถั่วเหลืองที่ย่อยสลายได้ 100% และปลอดภัยต่อสุขภาพ, ถุงชีวภาพจากแป้งข้าวโพดและแป้งมันสำปะหลังที่ย่อยสลายได้ 100% และบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ภายใน 2 ปี เป็นต้น

ด้าน นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการและรองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โคโลญเมสเซ่ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ส่งผลต่อการเลือกซื้อสินค้าที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เช่น อาหารจากพืช เนื้อสัตว์ทางเลือก ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะถูกนำมาเสนอในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 เช่น แกงกะหรี่ปูที่ทำจากขนุน เจลลี่เพื่อสุขภาพดวงตา เบอร์เกอร์เนื้อพืช และทูน่าจากพืช เป็นต้น

“งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 นับว่ามีบทบาทในการปฏิรูปวงการอาหารและเครื่องดื่มของภูมิภาคเอเชีย หัวใจสำคัญของงานนี้ คือ การนำเสนออาหารเลื่องชื่อจากทั่วโลก ส่งเสริมการสร้างพันธมิตรทางการค้าที่มีคุณค่า มอบโอกาสที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าอย่างมาก และยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของผู้เข้าร่วมงานในสายตาเวทีโลก” นายแมธเธียส กล่าว

นายแมธเธียส กล่าวเพิ่มเติมว่า THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 จะมีบูธแสดงสินค้าจากต่างประเทศกว่า 2,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12%  โดยมีประเทศใหม่ที่มาร่วมออกบูธ ได้แก่ แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก อียิปต์ โมนาโก มาซิโดเนียเหนือ โรมาเนีย เยเมน รวมทั้งมาเก๊า ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีระดับโลกของมาเก๊า การมีส่วนร่วมของประเทศเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้งานมีความหลากหลายและครอบคลุมในทุกมิติมากขึ้น

ในปีนี้ โคโลญเมสเซ่ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ เช่น Future Food Experience+ โดยจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน เทรนด์ นวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้ ยังมี Alternative Protein Flavour and Taste Contest ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเสนอนวัตกรรมเนื้อสัตว์ทางเลือก และการแข่งขัน Thailand Ultimate Chef Challenge ที่จะมีเชฟกว่า 700 คนจากทั่วโลกมาแข่งขันทำอาหาร เพื่อชิงชัยความเป็นสุดยอดเชฟแห่งประเทศไทย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon