เปิดเทคนิค Gen 3 “จอลลี่แบร์” SME ดังในเซเว่นฯ และยูทูบเบอร์ดัง “MayyR” สร้างตัวตนยกระดับแบรนด์สู่เส้นทางยอดขายปัง

49
มิติหุ้น  –  การเดินหน้าให้ความรู้ผู้ประกอบการ SME ผ่านกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ยังคงเป็นพันธกิจหลักที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุด ซีพี ออลล์ ได้ร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น และ สมาคมการค้าปลีกและเอสเอ็มอีทุนไทย จัดกิจกรรมสัมมนาออนทัวร์ ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ SME New Gen ได้มีโอกาสมาเข้าร่วมฟังและอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ นำไปต่อยอดสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับธุรกิจ
โดยในครั้งนี้ได้ 2 SME รับเชิญชื่อดังอย่าง นิค-พลากร เชาวน์ประดิษฐ์ เจ้าของแบรนด์ “จอลลี่แบร์” (Jolly Bears) ขนมเยลลี่หมีที่เชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องเคยทาน และ เมย์-พรพรรณ เรืองปัญญาธรรม Influencer ชื่อดังจากช่องยูทูป “MayyR” (เมอา) ที่มีผู้ติดตาม 1.74 ล้านคน และยังเป็นเจ้าของร้าน 11AM cafe and Space ร้านคาเฟ่ชื่อดังของ จ.ขอนแก่นที่ไม่ว่าใครก็ต้องแวะเวียนมาที่ร้าน โดยทั้งคู่มาร่วมเผยเคล็ดลับการสร้างตัวตน สู่การสร้างโอกาสทำให้ยอดขายปัง ในหัวข้อ “SME New Gen สร้างตัวตนให้เป็น ยอดขายก็ปัง”
“จอลลี่แบร์” หาจุดแข็ง สร้างมาตรฐาน จับมือพันธมิตร ปั้นยอดขายสู่หลัก 100 ล้าน
“จอลลี่แบร์” ถือเป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวสัญชาติไทย ที่ถือหุ้นและบริหารโดยคนไทย 100% มีชื่อเสียงโลดแล่นในตลาดมานานกว่า 50 ปี ผลิตโดย บริษัท พงษ์จิตต์ จำกัด ที่มีจุดเริ่มต้นจากการผลิตลูกอมแบบแข็ง แต่ด้วยสภาพตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้ทายาทรุ่นที่ 2 ที่มารับช่วงต่อต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต โดยหันมาผลิตเยลลี่รูปหมีแทน
นิค-พลากร เชาวน์ประดิษฐ์ เจ้าของแบรนด์ “จอลลี่แบร์” ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าเรื่องขยายความต่อให้ฟังว่า ต้องยอมรับว่า ในยุคนั้นคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักเยลลี่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนตัดสินใจซื้อ เลยตัดสินใจทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณาในช่องทางหลักอย่าง ทีวี หนังสือ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สินค้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แม้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทจะไม่ได้สร้างแบรนด์อย่างจริงจังเหมือนเดิม แต่แบรนด์ก็ยังคงสามารถขายสินค้าได้ด้วยตัวของแบรนด์เอง
กระทั่งเมื่อช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา มีผู้เล่นรายอื่นเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากต่างประเทศ บริษัทจึงต้องมุ่งสร้างแบรนด์อย่างจริงจังอีกครั้ง เนื่องจากแบรนด์ “จอลลี่แบร์” อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน ผู้บริโภคที่เป็น Gen ใหม่ๆ อาจไม่สามารถเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ได้ อีกทั้งรูปแบบการทำการตลาดแบบเดิมๆ ผ่านช่องทางหลักอาจไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคที่ใช้เวลาในโลกโซเซียลมากขึ้น
สำหรับรูปแบบการสร้างแบรนด์และทำการตลาดที่ทางบริษัทใช้ในปัจจุบันคือ การทำผ่าน Offline ควบคู่กับ Online แต่จะเน้นที่ Online เป็นหลัก โดยการใช้ Influencer ทำการตลาดผ่านโซเซียลมีเดียต่างๆ ทั้ง YouTube Facebook TikTok Instagram ในการรีวิวสินค้าช่วยสร้างกระแสก่อให้เกิดการบอกต่อ ทำให้เกิดการมองหาสินค้า ตัวสินค้าเองก็ต้องได้มาตรฐาน เดินหน้าพัฒนาสินค้าให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ ทั้งรสชาติใหม่ แพ็กเก็จจิ้งใหม่ หรือหาพันธมิตรในการออกสินค้าใหม่ร่วมกันก็ได้
“การยืนหยัดในตลาดที่มีผู้เล่นจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เพราะแบรนด์ที่ดีจะช่วยสร้างความความเชื่อมั่น เชื่อใจ และน่าเชื่อถือให้กับองค์กรและสินค้า ซึ่งการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้นั้นจะต้องอาศัย 3 ข้อหลักๆ คือ 1.ต้องหาจุดแข็งของสินค้าให้เจอ สำหรับจอลลี่แบร์ก็คือ ความคุ้มค่า มีประโยชน์ มุ่งเน้นความปลอดภัย 2.สร้างมาตรฐานให้กับสินค้า สินค้าต้องได้มาตรฐานสากลในทุกด้าน และ 3.เดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน อย่างในช่วงหนึ่ง จอลลี่แบร์ได้จับมือแบรนด์รองเท้ากีโต้ เพื่อทำรองเท้าของจอลลี่แบร์ออกมาช่วงหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี โดยทั้ง 3 สิ่งนี้ทำให้จอลลี่แบร์ยังคงอยู่ในตลาดได้ พร้อมอัตราการเติบโตด้านยอดขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทมียอดขายสูงถึง 300 ล้านบาท อยากให้ SME จำไว้ว่า เมื่อไหร่ที่หยุดสร้างแบรนด์ก็จะมีปัญหาเมื่อนั้น เพราะคู่แข่งพร้อมที่จะมาแซงเราอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น แบรนด์ จึงเป็นหัวใจหลักที่เราต้องรักษาและทำให้ดี”
“สร้างตัวตนให้ชัดเจน” ช่วยต่อยอดการเติบโต
หากเอ่ยชื่อของ เมย์-พรพรรณ เรืองปัญญาธรรม Influencer ชื่อดังจากช่องยูทูป “MayyR” (เมอา) เชื่อว่าบรรดาสาวๆ หลายคนคงรู้จักเธอเป็นอย่างดี เพราะช่องเกิดและโตมาจากการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ ก่อนที่จะผันมาเป็นช่องท่องเที่ยว และหันมาทำร้านคาเฟ่เพิ่ม แต่ไม่ว่า เมย์ จะเปลี่ยนไปทำช่องในรูปแบบไหน หรือทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดหันมาเปิดร้าน 11AM cafe and Space คาเฟ่ชื่อดังของจ.ขอนแก่น ผู้ติดตามก็ยังคงติดตามผลงานของเธออย่างเหนียวแน่นเหมือนเดิม อีกทั้งยังแวะเวียนไปที่ร้านอยู่บ่อยครั้ง นั่นเป็นเพราะ เมย์ สร้างตัวตนของตนเองออกมาได้อย่างชัดเจน และถูกถ่ายทอดออกมาสู่ช่อง MayyR ทำให้ผู้ติดตามเกิดความชื่นชอบ และยินดีที่จะติดตามไปในทุกๆ กิจกรรมที่เมย์ได้ทำ
เมย์ บอกว่า การสร้างตัวตนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตัวตนที่ดีจะช่วยสร้างการจดจำที่ดี โดยเฉพาะการสร้างผ่านสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย โดยเริ่มจากการเป็นยูทูบเบอร์ (YouTuber) เรื่องความสวยความงาม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว และหันมาเปิดร้านคาเฟ่ของตนเองที่บ้านเกิด เพราะไม่อยากทำงานไกลบ้าน แต่ก็ยังคงสร้างตัวตนของร้านผ่านสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆอย่างต่อเนื่อง
“ช่อง MayyR ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ผู้ติดตามเก่าก็ยังคงติดตามอยู่ และมีผู้ติดตามใหม่เพิ่มมากขึ้น กระทั่งได้มีโอกาสมาเปิด ร้าน 11AM cafe and Space ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ลูกค้าส่วนหนึ่งมาจากผู้ติดตามเดิมในช่อง YouTube และอีกส่วนหนึ่งรู้จักร้านผ่าน Facebook TikTok Instagram ของร้านเอง โดยดึงจุดเด่นของร้านมาเป็นจุดขายในการสร้างตัวตนร้านนั่นคือ การเป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่มาแล้วได้ครบ มีทั้งมุมถ่ายรูป มุมทำงาน ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเมย์ออกมานั่นคือความเรียบง่าย แต่ดูอบอุ่นและมีสไตล์ และเครื่องดื่ม อาหารหลากเมนู เพราะเป็นคนที่ชื่นชอบการทำขนมและอาหาร ชอบคิดสูตรเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในปัจจุบัน จนทำให้เกิดกระแสการบอกต่อ และอยากมาเห็นของจริง”
การสร้างตัวตนเพื่อยกระดับแบรนด์สามารถใช้ได้ทั้ง “ตัวสินค้าหรือตัวบุคคล” ในการสร้างแบรนด์ ขอเพียงรู้ถึงจุดเด่นของตัวเอง รวมถึงต้องหมั่นพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน เพื่อนำมาสร้างเป็นจุดแข็งให้แบรนด์ เพราะแบรนด์ที่แข็งแรงและแข็งแกร่ง จะช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon