8 อสังหาฯ บูมทำเล “ถนนหอการค้าไทย” กางแผนพัฒนาโครงการรวม 1,300 ไร่ มูลค่า 50,000 ล้านบาท

247

มิติหุ้น – 8 บริษัทอสังหาฯ “เพอร์เฟค-เอพี-แสนสิริ-เอสซี แอสเซท-พฤกษา-ซีพีเอ็น-พราว-ฮ่องกงแลนด์” เปิดเผยแผนพัฒนาโครงการบน “ถนนหอการค้าไทย” พัฒนาสู่การเป็นทำเลที่อยู่อาศัยคุณภาพและศูนย์กลางธุรกิจการค้าแห่งใหม่ รวมพื้นที่ 1,300 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท

นับจากการเปิดใช้ถนนเมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบัน “ถนนหอการค้าไทย” กลายเป็นทำเลทองของการอยู่อาศัย และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำรวม 8 บริษัท ได้แก่ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น บมจ.แสนสิริ บมจ เอพี (ไทยแลนด์) บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา บมจ.พราว เรียล เอสเตท และ ฮ่องกง แลนด์ ที่มีแผนพัฒนาโครงการร่วมสร้างสังคมคุณภาพบนถนนหอการค้าไทย

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถนนหอการค้าไทย ซึ่งเชื่อมระหว่างถนนชัยพฤกษ์และถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (ถ.345) ระยะทาง 4 กิโลเมตร เป็นถนนที่บริษัทก่อสร้างขึ้น โดยใช้งบ 400 ล้านบาท ปัจจุบันเติบโตเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โรงเรียนนานาชาติ ธุรกิจร้านค้ามากมายเกิดขึ้น มีการพัฒนาโครงการไปแล้ว 20 โครงการ เป็นพื้นที่ 920 ไร่ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท จำนวนรวม 3,100 ยูนิต เป็นหนึ่งในทำเลที่มีโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพหลากหลายรูปแบบ และ ได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มผู้ซื้อบ้านในกรุงเทพโซนตะวันตก

ทั้งนี้ตลอดเส้นทางถนนหอการค้าไทย มีพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการรวม 1,300 ไร่ มูลค่าโครงการทั้งหมดคาดว่าอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท จำนวนรวมประมาณ 4,600 ยูนิต ใช้ระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ในการพัฒนาโครงการเต็มพื้นที่ สู่การ เป็นทำเลที่อยู่อาศัยและศูนย์กลางธุรกิจที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ซื้อบ้าน ภายใต้การพัฒนาของ 8 บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ในปีนี้ถนนหอการค้าไทยยังได้รับอานิสงส์จากรถไฟฟ้าสีชมพูเปิดให้บริการ และการขยายถนนชัยพฤกษ์เป็น 10 ช่องทางที่กำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2567 เพิ่มศักยภาพการคมนาคมเชื่อมตรงจากถนนแจ้งวัฒนะ ส่งผลให้พื้นที่ขยายตัวเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก

สำหรับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีที่ดินบนถนนหอการค้าไทย 600 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 20,500 ล้านบาท พัฒนา ไปแล้ว 530 ไร่ จำนวน 13 โครงการ มีโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ 6 โครงการ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ครบทุกรูปแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว 4 โครงการ ได้แก่ เพอร์เฟค เพลส, เพอร์เฟค พาร์ค 2 โครงการ และ เลค เลเจ้นด์ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุน กับ ฮ่องกงแลนด์ มีทาวน์โฮม 1 โครงการ ได้แก่ เดอะ เมทโทร และอาคารพาณิชย์พร้อมการพักอาศัย 1 โครงการ ได้แก่ มาร์เก็ต อเวนิว ในส่วนที่ดินอีก 90 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ทั้ง อาคาร พาณิชย์ ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนในชุมชนบนถนนสายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้าน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายมงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ เปิดเผยว่า เอสซี แอสเสท เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่เข้ามาพัฒนาโครงการบนถนนหอการค้าไทย จนถึงขณะนี้มีการพัฒนาโครงการมาแล้ว 3 โครงการ ในระดับราคา 10-30 ล้านบาท ปิดการขายไปแล้ว 1 โครงการ และเป็นโครงการที่ดำเนินการอยู่ 2 โครงการ ได้แก่ “บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ แจ้งวัฒนะ” บ้านหรู โครงการใหม่ inspired by bled castle, Slovenia พื้นที่ 33 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,560 ล้านบาท จำนวน 72 ยูนิต และ “บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์” บ้านหรู ลา-ใน ซีรีย์ inspired by Chamonix, Mont-Blanc พื้นที่ 26 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท จำนวน 82 ยูนิต นอกจากนี้ ยังมีที่ดินบนถนนหอการค้าไทยอีก 70 ไร่ที่รอการพัฒนา “นับจากวันแรกที่เข้ามาพัฒนาโครงการ เอสซี แอสเสท เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลถนนหอการค้าไทย ที่มีแนวโน้มจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ในอนาคต จนถึงวันนี้มีการเดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อได้หลายเส้นทางใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสิ่งอำนวยความสะดวกเกิดขึ้นมากมาย ทั้งร้านค้าต่างๆ รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติ นอกจากจะเป็นทำเลแห่งการอยู่อาศัยที่มีโครงการแนวราบให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคา 2 ล้านบาท ไปจนถึง 80 ล้านบาทแล้ว ยังนับเป็น ศูนย์รวมธุรกิจแห่งใหม่ในทำเลแจ้งวัฒนะ”

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถนน หอการค้าไทย ถือเป็นถนนเศรษฐกิจสำคัญอีกเส้นทางหนึ่งที่ส่งเสริมให้ที่ดินที่อยู่แวดล้อมคึกคักและด้วยจุดเด่นของทำเลที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และโรงเรียนนานาชาติ SISB ทำให้ย่านนี้กลายอีกหนึ่งทำเลทองของกรุงเทพฝั่งตะวันตกที่น่าสนใจ ซึ่งบริษัทฯพร้อมเปิดตัวโครงการ Grande Pleno แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท บนถนนเส้นดังกล่าว กำหนดเปิดพรีเซลในวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้

รูปแบบโครงการ Grande Pleno แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ จะเป็น “บ้านแฝดพรีเมียม 2 ชั้น” จำนวน 198 หลัง ราคา เริ่มต้น 6.09 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “เพิ่มพื้นที่ขยายความสุขที่มากกว่า” เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวใหม่ที่กำลัง มองหาบ้านในสเปซที่ลงตัวกับความต้องการ มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่แตกต่างจากซัพพลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยบ้านฟังก์ชั่นใหญ่ คุ้ม ครบทุกความต้องการ ขนาด 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 143-169 ตร.ม. พร้อม Exclusive Clubhouse สระว่ายน้ำและฟิตเนส 24 ชั่วโมง ที่ให้คุณได้เริ่มต้นชีวิติใหม่กับบ้านที่ลงตัว เหนือระดับด้วยความสะดวกสบายถึงขีดสุด ให้ทุกช่วงเวลาชีวิตของคนในครอบครัวลงตัวที่สุด

นายอาณัติ กิติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการแถวหน้า ที่ร่วมบุกเบิกโครงการบนถนนหอการค้าไทย ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและทำเลทองแห่งใหม่ในปัจจุบัน โดยแสนสิริมีการพัฒนาโครงการในโซนนี้ 2 โครงการ พื้นที่รวม 102 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ได้แก่ สราญสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ และ Else ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ โดยทั้ง สองโครงการได้รับการตอบรับที่ดีมาก ปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เราเล็งเห็นถึงศักยภาพในด้านต่างของถนนหอการค้าไทยและในย่านชัยพฤกษ์ที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะการเดินทางที่สะดวกสบาย เป็นแหล่งรวมการใช้ชีวิตที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เป็นทำเลทองที่มีศักยภาพด้วยอาณาเขตที่เชื่อมต่อถึง 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและประกอบกิจการ มีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีโครงการที่อยู่อาศัยครบทุกระดับ ราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น นับเป็นหนึ่งในโลเคชั่นสำคัญในการพัฒนาโครงการของแสนสิริ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

นายสรศักดิ์ เฉลิมไพโรจน์ Head of SBU-PS2 กลุ่มบ้านเดี่ยว บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พฤกษาได้เข้ามาพัฒนาโครงการบนถนนหอการค้าไทยตั้งแต่ช่วงแรกของการเปิดใช้ถนน มีจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการภัสสร บ้านเดี่ยวระดับราคา 5-8 ล้าน ซึ่งปิดการขายไปแล้ว และ โครงการเดอะ ปาล์ม บ้านเดี่ยวในระดับราคา 8-15 ล้าน คาดว่าจะปิดโครงการในไตรมาส 3 ของปีนี้

“พฤกษายังมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่อีก 33 ไร่บนถนนสายนี้ โดยเรามองถนนหอการค้าไทยเป็นทำเลศักยภาพ รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก การคมนาคมที่สะดวกสบาย เป็นทำเลที่มีความเจริญเข้ามามากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยแนวราบที่บริษัทอสังหาฯ ต่างๆ เข้ามาพัฒนา ทำให้บรรยากาศสภาพแวดล้อมของถนนหอการค้าไทยมีความเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย และด้วยศักยภาพของที่ดินที่เชื่อมต่อกับ ถ.ชัยพฤกษ์ และ ถ.345 สามารถเข้าเมืองได้สะดวก รวมถึงยังใกล้แหล่งงานมากมาย ทำให้เป็นทำเลที่สามารถดึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในพื้นที่ได้มาก

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “พราว เรียล เอสเตท เป็นรายล่าสุดที่เข้ามาพัฒนาที่อยู่อาศัยบนถนนหอการค้าไทย โดยแปลงที่ดินของเรามีความพิเศษคือสามารถ เข้าออกได้ 2 ทาง คือเข้าทางถนน 345 และถนนหอการค้าไทย โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนน 345 ที่เป็นเหมือนประตูทางเข้าถนนหอการค้าไทย จึงทำให้ทางเข้าถนนเส้นนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นและเพิ่มมูลค่าให้กับทำเลถนนหอการค้า ไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย”

ในส่วนของแนวทางการพัฒนาทางบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการในปี 2568 โดยบริษัทฯได้รวบรวมประสบการณ์ด้านการพัฒนาโครงการระดับ Luxury – Ultra Luxury มูลค่า 100 ล้านบาทที่เคยทำนำมาปรับใช้ให้ได้มากที่สุด พร้อมส่ง ต่อ Proud Pillars ของ พราว เรียล เอสเตท ตั้งแต่การบริการ การออกแบบที่โดดเด่นและการสร้างสรรค์รูปแบบชีวิตที่ กลมกลืนสอดคล้องกับบริบทของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อให้ทุกชีวิตสัมผัสการใช้ชีวิตที่มากกว่า ซึ่งเป็นคำมั่น สัญญาในการดำเนินธุรกิจของพราว เรียล เอสเตท

นายสงกรานต์ แสงอร่ามรุ่งโรจน์ Head of Residence Operation 5-8 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทมองเห็นศักยภาพถนนหอการค้าไทย ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก และพรั่งพร้อม ด้วยศูนย์การค้าชั้นนำ เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์, เซ็นทรัล เวสต์เกต รวมทั้งยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่างโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์นนทบุรี (SISB วิทยาเขตนนทบุรี) ดังนั้นทำเลถนนหอการค้าไทยจึงเป็นทำเลที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ซึ่งเป็นเหตุผลที่บริษัทสนใจลงทุนพัฒนาโครงการในทำเลนี้

ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา มีที่ดินขนาด 75 ไร่ บนถนนหอการค้าไทย มีแผนพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โดย CPN Residence ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์การพักอาศัยและใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้า ทั้งในด้านของฟังก์ชั่นที่รองรับไลฟ์สไตล์ และเข้าใจการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยในบ้าน ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงอายุ รวมถึงงานดีไซน์ที่สวยงามบอกถึงความภูมิใจและตัวตนของผู้พักอาศัย และที่สำคัญคือระดับราคาขายที่สามารถแข่งขันได้

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon