นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูรวมตัวกันประมาณ 100 คน เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสิน พักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ช.พ.ค. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค. ทั่วประเทศ ร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561
โดยระบุว่า โครงการเงินกู้ ช.พ.ค.นี้เกิดขึ้นเพื่อจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก ช.พ.ค. เพื่อชำระหนี้และนำเงินไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและบุคคลในครอบครัว การศึกษา รักษาพยาบาล และใช้จ่ายกรณีจำเป็นอื่นๆ อีกทั้งช่วงปี 2547-2548 มีปัญหาหนี้นอกระบบมาก รัฐบาลได้พยายามแก้ไขทั้งระบบรวมถึงการช่วยเหลือกลุ่มครู ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ ที่เคยกู้หนี้นอกระบบเสียดอกเบี้ยเดือนละ 10-20% ธนาคารออมสินได้ยื่นมือเข้ามาช่วย โดยให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้เลือกผ่อนชำระได้นาน
หรือธนาคารออมสินสามารถคิดดอกเบี้ยได้ถึง 15-28% ต่อปี แต่เงินกู้โครงการนี้คิดเพียง 5-6% ต่อปี เท่านั้น และผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี
และตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ ธนาคารออมสินได้มีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ครูมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการผ่อนชำระหรือชำระไม่ไหวด้วยการส่งหนังสือเชิญชวนให้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ เพื่อให้ผู้กู้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขเดิมกลับมาเป็นหนี้ปกติที่ได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำตามเดิมได้ นับว่าเป็นมาตรการที่ยืดหยุ่นอย่างมาก
สำหรับยอดสินเชื่อของโครงการ ช.พ.ค. ล่าสุด มีผู้กู้รวม ประมาณ 433,000 ราย คิดเป็นวงเงินกู้ประมาณ 406,000 ล้านบาท โดยมี NPLs ประมาณ 4,079 ราย คิดเป็น 0.94% ของลูกหนี้ทั้งหมดเท่านั้น