ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กลุ่มฮามาสได้เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่ระบุในข้อเสนอการหยุดยิงกับอิสราเอล และพยายามที่จะปรับเงื่อนไขให้เหมือนกับที่กลุ่มฮามาสเคยให้การยอมรับในการเจรจาครั้งก่อน ทั้งนี้ แม้ว่าสงครามในตะวันออกกลางจะยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก แต่นักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวนั้นมีความเสี่ยง
– ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% จากการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2567 อาจถูกเลื่อนออกไปเป็นในช่วงเดือน ธ.ค. 67 โดยเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง จากการประชุมเมื่อเดือน มี.ค. 67
– สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 7 มิ.ย. 67 เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 459.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินของเม็กซิโกในเดือน มิ.ย. 67 คาดว่าจะปรับลดลงต่ำกว่าประมาณการ นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันเบนซินของฮ่องกงมีแนวโน้มปรับลดลงท่ามกลางการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลในยุโรปมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การส่งออกน้ำมันดีเซลของเกาหลีใต้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 2.3 ล้านตันในเดือน ก.ค. 67
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon