กองทุนพยุงหุ้น VS แรงขายต่างชาติใครจะชนะ?

200

สัปดาห์ที่ผ่านมา(24-28 มิ.ย.67) ที่ผ่านมา 3 หน่วยงานหลักภาคตลาดทุน นำโดย กระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จัดแถลงข่าวเรียกความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เรื่อง “มาตรการขับเคลื่อตลาดทุน” นำโดย “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังนำทัพจัดโปรโมชั่นชุดใหญ่

ทั้งกองทุน Thai ESG โดยขยายวงเงินถือครองสูงสุดเป็น 300,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท พร้อมลดระยะเวลาถือครองจากเดิม 8 ปีเหลือเพียง 5 ปี รวมทั้งได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษี

“กองทุนรวมวายุภักษ์” โดยอาจจะเป็นการลงทุนภาครัฐ และภาคประชาชนรวม 5 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันภาครัฐมีวงเงินพร้อมลงทุน 3.5 แสนล้านบาท และอาจเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทุนอีก 1.5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินการกองทุนรวมวายุภักษ์ ทั้งนี้อาจจะต้องให้ผลตอบแทนคงที่ในระยะเวลา 10 ปี

ซึ่งต้องยอมรับว่าการที่รัฐตัดสินใจผลักดันยาแรงอย่างการออก “กองทุนรวมวายุภักษ์” ก็น่าเรียกความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่งสอดคล้องกับนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า จากแนวคิดการฟื้นกองทุนเพื่อการลงทุนระยะยาวในรูปแบบของ “กองทุนวายุภักษ์” เพื่อหวังจะให้มีเม็ดเงินเติมเข้าไปในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนดังกล่าวมีโอกาสแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ “หน่วย ก.” สำหรับนักลงทุนทั่วไป และ “หน่วย ข.” สำหรับกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่น ทั้งนี้มีการฟื้นกองทุนวายุภักษ์จากสามารถกระตุ้นให้ SET INDEX มีโอกาสปรับขึ้นไปยืนเหนือ 1,330 จุดได้

แต่ต้องยอมรับว่ามาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการปลายทางระยะสั้นที่ต้องเร่งทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับมาโดยเร็วแต่ยังจะต้องทำการบ้านกันต่อจากปัญหาด้านโครงสร้างตลาดหุ้นไทยซึ่งควรจะต้องมีมาตรการระยะกลางและระยะยาวเพิ่มเติม ดังนั้นคงไม่แปลกใจที่ช่วง 27 วันที่ผ่านมา(ณ  วันที่ 27 มิ.ย.67) ต่างชาติขายต่อเนื่องแล้วกว่า 51,635 ลบ. ถึงแม้ว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมาต่างชาติยังขายสุทธิแล้วกว่า 1ล้านลบ.

ฉะนั้นจากนี้ไปเลือดซิบจากแรงขายต่างชาติยังต้องมีต่อไป … แรงซื้อจากกำลังภายในเท่านี้คงยังไม่เพียงพอ….แน่นอน!

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon