ยิ่งไปกว่านั้น จุดแข็งของ DTLM คือความสามารถในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลไทยกับภาษาอังกฤษ และจีน และเป็นโมเดลแรกของโลกที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงทั้งสามภาษาหลัก นอกจากนี้ DTLM ยังมีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ที่ไม่ได้อาศัยการแปล เพียงอย่างเดียว ทำให้สามารถอ่าน ถาม และตอบโต้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและรวดเร็วแบบ Real-Time
ทั้งนี้ DTGO ได้ก่อตั้งบริษัทลูก ควินน์โนวา คอร์ปอเรชั่น (Quinnnova Corporation) เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจที่ปรึกษาด้าน IT เป็นผู้พัฒนา DTLM ให้เป็น AI Application Solutions แบบครบวงจร โดยควินน์โนวาเน้นให้ความสำคัญไปที่การพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรม AI อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของ AI ในประเทศไทยให้มีศักยภาพสูงขึ้นอักระดับ
โดยในระยะแรก DTLM จะเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือ B2B เนื่องจากมีจุดเด่นด้านการจัดการต้นทุนการใช้งานที่คุ้มค่าสำหรับองค์กร และมีระบบความปลอดภัย แบบปิด ช่วยป้องกันข้อมูลรั่วไหล องค์กรต่างๆ สามารถนำ DTLM ไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งเพื่อใช้งานร่วมกับการพัฒนาภายในองค์กรและการใช้งานภายนอกองค์กร
ทั้งนี้ คุณกิตติคุณ กล่าวอีกว่า DTGO ก่อตั้งบริษัทลูก ควินน์โนวา ขึ้นมารุกธุรกิจเต็มตัวเนื่องจากเล็ง เห็นศักยภาพการพัฒนาด้าน IoT และ AI รวมถึงโอกาสที่จะต่อยอดออกไปเป็นหนึ่งในกิจการ ที่มีศักยภาพสูงในอนาคต อีกทั้งการใช้งาน AI อย่างชาญฉลาดจะช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ DTGO
DTGO เป็นบริษัทลงทุนในกิจการต่างๆร่วมกับการทำกิจกรรมสร้างคุณประโยชน์แก่สังคม โดยมี MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเป็นธุรกิจหลัก ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นนำมาให้ในทุกๆส่วนในการพัฒนาโครงการ รวมถึงกิจการอื่นๆ ในเครือ DTGO
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon