อันดับที่ 1 ALLA ทะยานบวก 4.70% ลุยธุรกิจพลังงาน ลดความเสี่ยงรายได้ โบรกฯ คาดผลงานปี 61 กำไรโต 24% เคาะเป้า 2.64 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ. ออลล่า หรือ ALLA ผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซื้อขายช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นสดใส แตะระดับสูงสุด 1.61 บาท และปิดครึ่งวัน (12.30 น.) ที่ระดับ 1.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 4.70% มูลค่าซื้อขายกว่า 2.6 ล้านบาท ด้านนายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ALLA เผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทโซลาร์รูฟท็อป คาดเห็นความชัดเจนในไตรมาส 3/61 ซึ่งจะเป็นรายได้ที่มั่นคงช่วยลดความเสี่ยงในธุรกิจผลิต จำหน่ายและติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้า ที่มีข้อจำกัดเรื่องรับรู้รายได้ที่มีระยะนอกจากนี้ บริษัทยังมีงานอยู่ระหว่างเข้าประมูลอีกกว่า 1 พันล้านบาท ทำให้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ที่ระดับ 72 ล้านบาท เติบโต 24.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.64 บาท
อันดับที่ 2 AJA ดีด 8.11% จ่อส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าล็อตแรก 100 คัน แตกไลน์ส่งออกสินค้าไปจีน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี หรือ AJA ซื้อขายช่วงเช้าของวันที่ 2 ส.ค.61 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสดใส โดยขึ้นไปแตะระดับ 0.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.03% หรือเพิ่มขึ้น 8.11% ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า 9.5 ล้านบาท สำหรับ AJA ได้แตกไลน์ธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ในฐานะบริษัทย่อยของ AJA ซึ่งถือหุ้น 45% โดยบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% แบรนด์ BYD e6 จำนวน 100 คัน ในโครงการแท็กซี่ วีไอพีของกรมขนส่งทางบก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่บริษัทได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
อันดับที่ 3 NPPG เปิดเกมบุกธุรกิจอาหาร จ่อปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี61
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) หรือ NPPG โดยนายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 61 จากเดิมคาดว่าจะเติบโตราย 1,300-1,400 ล้านบาท ขณะเดียวกันคาดว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไร เนื่องจากบริษัทจะรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหาร และจากแบรนด์ DEAN & DELUCA โดยบริษัทได้รับสิทธิรายเดียวในไทย ในการให้บริการของแบรนด์ DEAN & DELUCA โดยบริษัทตั้งเป้า 5 ปี ขยายร้านทั้งสิ้น 100 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 12 สาขา โดยในปีแรกคาดว่าจะเปิดอย่างต่ำ 10 แห่ง ทั้งนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 5-8 ล้านบาท/สาขา
อันดับที่ 4 TPIPL พร้อมลุยลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มั่นใจQ3/61 เริ่มต้นพลิกกำไร หลังรับรู้โรงไฟฟ้าเต็มปี บริหารต้นทุนดีขึ้น ราคาปูนซีเมนต์ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีพีไอ โพลีน หรือ TPIPL ผู้ผลิจจำหน่ายปูซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง โดยนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า มั่นใจว่าผลประกอบการปี 2561 จะเริ่มเห็นการกลับมาพลิกกำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส3/61 หลังจากปี2560 ขาดทุนสุทธิ 1,259 ล้านบาท เนื่องจากราคาปูนซีเมนต์ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องโดยปัจจุบันราคาปูนซีเมนต์เม็ดอยู่ในระดับ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันจากต้นปี61 อยู่ในระดับ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ประกอบกับต้นทุนการผลิตลดลง ที่สำคัญคือได้รับปัจจัยหนุนจากบมจ.ทีพีไอพีพี หรือ TPIPP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TPIPL จะมีกำไรเติบโตมากขึ้น ส่วนผลประกอบการไตรมาส2/61 ยังไม่มั่นใจว่าจะกลับมีกำไรได้หรือไม่
อันดับที่ 5 BCP ขายหุ้นปิโตรเลียมแหล่ง Galoc แล้วเสร็จส.ค.นี้ลุ้นบันทึกกำไรไตรมาส3/61
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP โดยนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ความคืบหน้าการจำหน่ายหุ้นที่มีอยู่ใน Nido Production (Galoc) Pty. Ltd. หรือ NPG ที่ถือครองแหล่งน้ำมันดิบ Galoc ในสัดส่วน 55.8% ให้กับ Tamarind Galoc Pte. Ltd. ในมูลค่าประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 660 ล้านบาท คาดขบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2561 ทั้งนี้การจำหน่ายหุ้นในสัดส่วน 55.8% เป็นการจำหน่ายเฉพาะแหล่งน้ำมันดิบ Galoc ที่ดำเนินการแล้วเท่านั้น และเป็นช่วงปลายของการผลิตที่มีปริมาณลดลงจึงดำเนินการขายหุ้น นอกจากนี้การจำหน่ายสัดส่วนหุ้นดังกล่าวไม่นับรวมแหล่งปิโตรเลียมที่อยู่ในระหว่างสำรวจและพัฒนาอื่น ๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ที่ยังถือครองโดยบริษัทย่อยของบริษัท
www.mitihoon.com
