ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. เมกะ สากลพาณิชย์” ที่ “AAA” แนวโน้ม “Stable”

14

มิติหุ้น  –  ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (Mega ICBC) ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าธนาคารมีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega International Commercial Bank Co., Ltd. ในไต้หวัน (Mega ICBC-Taiwan อันดับเครดิต “A+/Stable” จัดอันดับโดย S&P Global Ratings) โดยธนาคารได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินจากธนาคารแม่อย่างต่อเนื่องซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าการสนับสนุนดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปในอนาคต

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan

ทริสเรทติ้งมองว่าธนาคารมีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan โดยธนาคารเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Mega ICBC-Taiwan ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Mega ICBC Financial Holding ธนาคารถือเป็นธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศเพียงแห่งเดียวของ Mega ICBC-Taiwan

ธนาคารเป็นตัวแทนของ Mega ICBC Group ในประเทศไทยที่ให้บริการทางการเงินแก่บริษัทและธุรกิจของไต้หวันที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย ธนาคารเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวทาง “New Southbound Policy” ของรัฐบาลไต้หวันซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวันกับประเทศในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย

ความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งของ Mega ICBC กับธนาคารแม่นั้น แสดงให้เห็นได้จากการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากธนาคารแม่ในแง่ของกลยุทธ์ทางธุรกิจและการบริหารความเสี่ยง Mega ICBC มีการบูรณาการร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกลุ่มโดยเห็นได้จากการนำกลยุทธ์และเป้าหมายทางการเงินของกลุ่มมาใช้ ธนาคารยังใช้ระบบบริการสารสนเทศของธนาคารแม่และใช้ระบบการแบ่งปันข้อมูลลูกค้าระหว่างธนาคารกับธนาคารแม่ นอกจากนี้ การเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดยังแสดงออกด้วยการที่ธนาคารใช้ชื่อแบรนด์ร่วมกับธนาคารแม่อีกด้วย

ทริสเรทติ้งมองว่า Mega ICBC-Taiwan มีพันธสัญญาระยะยาวที่แข็งแกร่งในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารจากสัดส่วนการถือหุ้น100% และจากกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศและให้การสนับสนุนธุรกิจจากไต้หวันที่ย้ายฐานมาในต่างประเทศ

ได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากกลุ่ม

ทริสเรทติ้งคาดว่าธนาคารจะยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอจากกลุ่มในรูปของวงเงินสินเชื่อและการเพิ่มทุนต่อไปหากจำเป็น จากสถานะเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของกลุ่ม ทริสเรทติ้งประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษอย่างทันท่วงทีจาก Mega ICBC-Taiwan และกลุ่มในยามที่จำเป็น

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ธนาคารได้รับวงเงินสินเชื่อจากกลุ่มประมาณ 1.95 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.14 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 นอกจากนี้ ธนาคารแม่ยังมีวงเงินช่วยเหลือหากเกิดปัญหาสภาพคล่องให้กับธนาคารอีก 5 พันล้านบาทอีกด้วย

ทั้งนี้ Mega ICBC-Taiwan มีประวัติในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธนาคารในรูปแบบของการเพิ่มทุน โดยในเดือนกรกฎาคม 2566 ธนาคารได้รับการเพิ่มทุนจากธนาคารแม่เป็นจำนวน 1 พันล้านบาท ซึ่งช่วยทำให้ทุนชำระแล้วของธนาคารเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท

ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้านักธุรกิจชาวไต้หวัน

ในฐานะธนาคารของรัฐของประเทศไต้หวัน ธนาคารมุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้านักธุรกิจชาวไต้หวันในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มดำเนินนโยบาย “New Southbound Policy” ในปี 2559 มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากไต้หวันในประเทศไทยก็เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate — CAGR) 29% ในช่วงปี 2559-2566 การเติบโตในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เร่งขึ้นอย่างมากถึง 184% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ประโยชน์จากกลยุทธ์ “China Plus One” เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ายังคงมีอยู่ โดยมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น แผงวงจรพิมพ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ณ ไตรมาสที่สองของปี 2567 การให้สินเชื่อแก่บริษัทในไต้หวันคิดเป็นประมาณ 53% ของสินเชื่อทั้งหมด โดย ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 การให้สินเชื่อแก่บริษัทไต้หวันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 53% ของสินเชื่อทั้งหมดของธนาคาร

ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 4.06 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนแบ่งการตลาดของธนาคารในสินเชื่อและเงินฝากระหว่างธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยนั้นอยู่ในระดับปานกลางที่ 0.2% ทั้งในสินเชื่อและเงินฝากซึ่งสอดคล้องกับธนาคารต่างประเทศรายอื่น ๆ ทั้งนี้ พอร์ตสินเชื่อของธนาคารยังคงกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มลูกค้าบรรษัทโดยเฉพาะในภาคการผลิต โดยสินเชื่อที่ให้แก่ภาคการผลิตนั้นมีสัดส่วนคิดเป็น 65% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567

นโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบแม้มีการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

ธนาคารใช้นโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบและดำเนินงานผ่านแพลตฟอร์มการดำเนินงานของกลุ่ม ธนาคารมีมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อที่รอบคอบและการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีจะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีของธนาคาร

การด้อยค่าของคุณภาพของสินทรัพย์เป็นผลมาจากสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ในภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากสินเชื่อ SME ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 และออกจากโครงการความช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ยังเผชิญความท้าทายอยู่ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงเหลือ 49% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 จาก 160% ณ สิ้นปี 2566 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ครอบคลุมโดยหลักประกันทำให้ไม่มีความจำเป็นในการตั้งสำรองเพิ่มเติม

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในช่วงที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และแนวทางในการบริหารความเสี่ยงโดยรวมของธนาคารยังคงดีอยู่ นอกจากนี้ ธนาคารมีการใช้การค้ำประกันโดย Oversea Credit Guarantee Fund (OCGF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การค้ำประกันในไต้หวันกับสินเชื่อส่วนหนึ่งที่ธนาคารปล่อยให้แก่นักธุรกิจชาวไต้หวัน  ณ เดือนมิถุนายน 2567 7.9% ของสินเชื่อทั้งหมดอยู่ภายใต้การค้ำประกันดังกล่าว

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งอยู่ภายใต้ความคาดหมายที่ธนาคารจะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan ต่อไป

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าธนาคารจะยังคงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan และจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตของธนาคารอยู่ในระดับสูงที่สุดคือ “AAA” โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารอาจถูกปรับลดลงหากอันดับเครดิตของ Mega ICBC-Taiwan ลดลง นอกจากนี้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงได้หากทริสเรทติ้งมีมุมมองว่า สถานะของธนาคารต่อกลุ่มอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด หรือมีสัญญาณว่ามีการลดการสนับสนุนจากบริษัทแม่

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon