CGSI : กลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น การฟื้นตัวในครึ่งปีหลังอาจไม่ต่อเนื่อง

35

มิติหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่า กำลังการกลั่นทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นแตะ 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปี 67 เทียบกับประมาณ 1.3 ล้านบาร์เรล/ วันในปี 66 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง (โครงการที่เปิดในปี 65-66 เพิ่มการผลิต) และโรงกลั่น Dangote ในประเทศไนจีเรียที่เปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนมี.ค.67

อย่างไรก็ตาม ประมาณการว่าโรงกลั่น Dangote น่าจะใช้กำลังการผลิตเต็มที่ในปี 68 นอกจากนี้ยังคาดว่าโครงการ Shangdong Yulong ในจีนและโรงกลั่น Olmeca ในเม็กซิโก อาจสามารถเปิดเชิงพาณิชย์ในปีหน้า

Bloomberg รายงานว่าในครึ่งปีแรก จีนส่งออกน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ลดลง 29.3% และ 20.3% yoy ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จีนมีปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง (onshore) อยู่ในระดับสูง อีกทั้งอุปสงค์ภายในประเทศยังอ่อนตัว ดังนั้นหน่วยงานรัฐของจีนจึงอาจพิจารณาเพิ่มโควตาการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเป็น 15mt ในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้โควตาทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 22mt หรือเพิ่มขึ้น 21.7% yoy ตามรายงานของ Reuters

ดังนั้นเมื่อรวมกับโควต้านำเข้าน้ำมันดิบที่จัดสรรโดยโรงกลั่นขนาดใหญ่ และแนวโน้มเพิ่มโควต้าการส่งออก โรงกลั่นเอกชนจึงอาจเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตและเร่งการส่งออกในครึ่งปีหลังนี้

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่า ค่าการกลั่นตลาด (GRM) ของโรงกลั่นไทยน่าจะแตะจุดต่ำสุดของปีนี้ในไตรมาส 2/67 แล้ว เห็นได้จากการที่ crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียเริ่มปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 15.0 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/67 จนถึงปัจจุบัน จาก 13.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 2/67 เนื่องจากโรงกลั่นบางแห่งในเอเชียเหนือยังคงลดอัตราการใช้กำลังการผลิต จึงช่วยชดเชยผลกระทบบางส่วนจาก crack spread น้ำมันเบนซินที่อ่อนตัว

นอกจากนี้ ยังคาดว่าต้นทุนน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางที่ลดลง น่าจะช่วยให้โรงกลั่นไทยมี GRM ฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ GRM อาจกลับเข้าสู่ขาลงในไตรมาส 4/67 เมื่อจีนมีการส่งออกน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น

หุ้นโรงกลั่นไทย underperform คู่แข่งในเกาหลีใต้อย่าง S-Oil และ GS Holdings 2-48% นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าน่าจะสะท้อนความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล (รัฐบาลเข้ามาคุม GRM รวมถึงแนวโน้มการปรับเพิ่มปริมาณสำรองตามกฎหมาย) ขณะที่หุ้น Top pick ในกลุ่มโรงกลั่นคือ SPRC ราคาเป้าหมาย 10 บาท และ BCP ราคาเป้าหมาย 40 บาท ซึ่งไม่ได้อยู่ในเครือ PTT เพราะทั้งสองบริษัทน่าจะมีความยืดหยุ่นในการลดความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลในประเทศมากกว่า เช่น การเพิ่มปริมาณส่งออกหรือลดอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่น

ดังนั้น จึงยังแนะนำให้คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) ในกลุ่มโรงกลั่นไทย เพราะ GRM น่าจะทรงตัวในระดับกลางวงจรที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปี 67-68 โดยมองว่า upside risk จะมาจากความต้องการน้ำมันดีเซลที่แข็งแกร่งกว่าคาดในตลาดโลก ส่วน downside risk คือการที่ผู้ประกอบการมีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสูงกว่าคาด

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon