มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สัปดาห์ที่แล้ว (30 ส.ค.) ปิดในแดนบวก (ดัชนี DJIA +0.55% ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิดสูงกว่า 1%) ตอบรับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. ที่ชัดเจนขึ้น หลังตัวเลข Headline PCE เดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 2.5% yoy ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.6% yoy และ Core PCE เดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 2.6% yoy ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.7% yoy
ภาพดังกล่าว ทำให้ตลาด, CME FedWatch Tool คาดว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. โดย 70% ให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ระดับ 5.25%
สำหรับสัปดาห์นี้ ติดตาม รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ ในวันอังคาร (3 ก.ย.) และ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. ในวันศุกร์ (6 ก.ย.)
• SET Index : เราคาดกรอบ SET Index สัปดาห์นี้จะแกว่ง sideway ในกรอบ 1,360 +/- 15 จุด และ มีแนวรับและแนวต้านสำคัญที่ 1,350 และ 1,385 จุด
สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ค. ของไทย เกินดุล 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเกินดุล 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ (+13.1% yoy)
นอกจากนี้ ธปท. ระบุว่า รายงานเศรษฐกิจไทยเดือนก.ค. โดยรวมปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนด้านการส่งออก และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและบริการขยายตัวขึ้น
แนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า จะยังได้รับแรงบวกจากภาคการท่องเที่ยวและบริการ
เราคงคาดการณ์การเติบโตของ GDP ที่ 2.7% สำหรับปี 2024F และ 3% สำหรับปี 2025F โดยปัจจัยขับเคลื่อนใน 2H24F ได้แก่ การส่งออก การเบิกจ่ายงบประมาณ การท่องเที่ยว และโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
ตลาดยังคงติดตามการประกาศ ครม. ชุดใหม่ ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเดินหน้าต่อ
• หุ้นแนะนำ
KBANK : เราคาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ในปี 2024F โดยการปรับลดน่าจะเกิดขึ้นในช่วง 1H25F เรายังแนะนำ KBANK เป็น Top pick ในกลุ่มแบงก์ เนื่องจากการขาย NPL และกลยุทธ์การจัดการในเชิงรุกมากที่สุดในกลุ่มธนาคารไทยที่เราทำการศึกษา ซึ่งน่าจะทำให้ KBANK มีอัตราการสำรองหนี้สูญลดลงในปี FY25-26 และส่งผลให้ EPS เติบโตแข็งแกร่งในอัตรา 9.5-12.2%
(Take profit : 145.20 / Stop loss : 142.00)
ADVANC : AIS มีกำไรสุทธิ และ EBITDA เติบโตสูงใน 2Q24 เพราะผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นสุทธิแข็งแกร่ง การแข่งขันที่ลดลง ส่งผลให้ ARPU เติบโตเป็นบวกใน 2Q24 เราจึงประบประมาณการ EPS ในปี FY24-26 ขึ้น 3.4-6.9%
(Take profit : 249.67 / Stop loss : 246.00)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon