มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งในแดนบวก (1.2-2.5%) ตอบรับเฟดประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50bps สู่ระดับ 5% และ Dot plot ใหม่ของเฟด ยังคาดการณ์การปรับลดลงอีกหลายครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะลดลงอีก 50bps ในปีนี้ 100bps ในปี 2025 และ ลดลงอีก 50bps ในปี 2026
นอกจากนี้ FOMC ยังคาดว่าอัตราการว่างงานใน 4Q จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% และ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเติบโตลดลงเล็กน้อยมาที่ระดับ 2.3% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.
ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง และ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมถึง FOMC ยังมีความเชื่อมั่นต่ออัตราเงินเฟ้อว่ายังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
ตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 2.19 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.3 แสนราย
สำหรับตลาดต่างประเทศอื่นๆ การประชุม BOE เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5%
ติดตามการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BOJ วันนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นภูมิภาค และ ค่าเงินเยน รวมถึงกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ โดยตลาดคาดว่ามีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.25%
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,435 – 1,450 จุด
เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) ตลาดได้รับปัจจัยบวกจาก Fund flow ที่ไหลเข้า โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,037.71 ล้านบาท และ บอนด์ซื้อสุทธิที่ 2,370 ล้านบาท หลังเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้
วันนี้ จับตา FTSE Rebalance เกี่ยวกับ หุ้นเข้าออกใหม่ในดัชนี โดย
1) หุ้นที่ถูกปรับลดน้ำหนักหุ้นใหญ่ของไทยลงจากกลุ่ม Large Cap มาสู่ Mid cap ได้แก่ CRC EA MINT PTTGC และ OR
2) กลุ่ม Small cap มีการปรับหุ้นเข้า 2 ตัว ได้แก่ BLA ที่ปรับลงมาจาก Mid cap และ เพิ่ม CPNREIT ในขณะที่ปรับลดน้ำหนักหุ้นจากกลุ่มนี้ 4 ตัว ได้แก่ ITD EGATIF ORI และ TPIPL และ
3) ปรับหุ้นเพิ่มเข้ากลุ่ม Micro cap 13 ตัว และ ปรับลดน้ำหนักหุ้น 32 ตัว
และ ประมาณการงบ 3Q24 ของหุ้นกลุ่มธนาคารที่เราทำการศึกษา (TTB SCB KTB KBANK BBL) เราพบว่ากำไรสุทธิเติบโตขึ้น yoy อย่างไรก็ตาม BBL และ KBANK เป็น Top pick ของเราในกลุ่มนี้ เนื่องจาก เราคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) จะเพิ่มขึ้น จากอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สูงขึ้น รวมถึงเราคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงิน และ รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตสูงขึ้น
เราเชื่อว่า การที่ KBANK ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่เพื่อประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์การเคลียร์งบดุลของธนาคาร
ในทางกลับกัน ผู้บริหารของ TTB ยังคงกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อที่ชะลอตัว ในขณะที่ SCB อาจต้องบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 200 ล้านบาทจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ของบริษัทให้บริการแอปพลิเคชั่น Robinhood ใน 3Q และ เรายังกังวลกับคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อของ KTB เพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันของธนาคารใน 2H24
• หุ้นแนะนำ
TIDLOR : เราเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินลดลง ผู้บริโภคและธุรกิจจึงมีแนวโน้มที่จะกู้เงินมาใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว ความต้องการสินเชื่อก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
(Take profit : 20.25 / Stop loss : 18.00)
GULF : เราเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด จะส่งผลให้ฟันด์โฟลด์ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย และ สนับสนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากภาระหนี้สกุลต่างประเทศที่ลดลง และ จิตวิทยาเชิงบวกจาก Bond yields ที่ปรับตัวลง
เราเชื่อว่า GULF และ INTUCH ที่ได้ประกาศควบรวมกิจการพร้อมทำคำเสนอซื้อ ADVANC และ THCOM และ จัดตั้งเป็น NewCo จะมีสัดส่วนทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงได้รับแรงสนับสนุนจากการถือหุ้นของ Singtel ที่มีเป้าหมายการเติบโตในธุรกิจ Data Center ที่ชัดเจน
(Take profit : 59.50 / Stop loss : 55.75)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
