บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัว ดัชนีปรับตัวขึ้นกว่า 200 จุดเพียงระยะเวลาเดือนกว่า จนยืนเหนือ 1,400 จุด จากปัจจัยการเมืองที่เริ่มคลี่คลายและนโยบายการสร้างความเชื่อมั่นจากการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินก้อนใหญ่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไม่น้อยกว่า 1.5 แสนลบ.ช่วงปลายปี รวมทั้งมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อโครงการแจกเงินหมื่นบาท ซึ่งหุ้นที่ได้รับอานิสงส์คงหนีไม่พ้นหุ้น Big cap. และหุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่ง CRC ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจ รวมถึงยังได้รับอานิสงส์จากช่วงท่องเที่ยว High Season ในช่วง Q4/67 ด้วย
ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ CRC หรือ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จึงเป็นหุ้นที่น่าจับตามอง ด้วยความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งในประเทศไทย เวียดนาม และ อิตาลี พร้อมครองความเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทย อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจครอบคลุมทั่วประเทศผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มฟู้ด 678 ห้างร้าน กลุ่มธุรกิจแฟชั่น 2,669 ห้างร้าน กลุ่มฮาร์ดไลน์ 476 สาขา กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ 27 แห่ง และกลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส 116 สาขา รวมทั้งสิ้นกว่า 4,000 สาขาทั่วประเทศ
โชว์ผลงานครึ่งแรกยอดขาย 1.30 แสนล้าน
ขณะที่ผลงานช่วงครึ่งแรกปี 67 สร้างรายได้ถึง 130,424 ลบ. เพิ่มขึ้น 6% และมีกำไรสุทธิงวด 6 เดือน ที่ 3,830 ลบ. เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งมาจากการมีอีโคซิสเต็มที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยหากวิเคราะห์ให้ลึกลงไปอีกจะพบว่า CRC ได้กระจายธุรกิจทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย นำโดย ภาคเหนือ 309 สาขา ผ่านการขยายสาขาท็อปส์และไทวัสดุในจังหวัดสำคัญ ภาคกลางมีจำนวนห้างร้านมากถึง 2,272 สาขา ทั้งใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 431 สาขา เน้นธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่และธุรกิจค้าส่งทั้งหัวเมืองรอง และในพื้นที่อำเภอสำคัญ ส่วนภาคตะวันออกเน้นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 441 สาขา รองรับการขยายตัวของเมืองอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว และ ภาคใต้ ลุยขยาย 513 สาขา ล่าสุดได้เปิด GO Wholesale สาขาราไวย์ ภูเก็ต สาขาแรกในภาคใต้
ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปี 67 ยังมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง แบ่งเป็นร้านไทวัสดุ 4 แห่ง GO Wholesale 3 แห่ง ศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม 3 แห่ง และซูเปอร์มาร์เก็ต go! 4 แห่ง ในเวียดนาม
ดังนั้นโอกาสการเติบโตของ CRC ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ มีโอกาสเติบโตได้ดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของกําไรที่เร่งตัวแรงขึ้นใน Q4/67 ผู้บริโภคมักมีการจับจ่ายสูงกว่าช่วงอื่นๆ รวมถึงเป็นช่วงหลังจากที่คนได้รับโบนัสประจําปี และเป็นฤดูท่องเที่ยว ยิ่งช่วยส่งเสริมกําลังซื้อและส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทในสาขาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการเติบโตที่มาจากยอดขายในไทยจากการเปิดห้างและขยายสาขาใหม่ นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากยอดขายในอิตาลีเติบโตจากนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและยอดขายผ่าน Omnichannel ที่เพิ่มขึ้นด้วย
เปิดแผน 5 ด้านเติบโตยั่งยืน
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต CRC ยังคงเดินหน้าบนวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence พร้อมพัฒนาอีโคซิสเต็มที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้เร็วในทุกภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย พร้อมเตรียมเสริมความแข็งแกร่งในแต่ละภูมิภาคเพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐบาลอาทิ Digital Wallet, ฟรีวีซ่า 93 ประเทศ ผ่านแนวทางการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน 5 ด้าน ได้แก่
- การเสริมแกร่ง Ecosystem และสร้างการเติบโตร่วมกับพาร์ทเนอร์
- พัฒนาธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขยายสาขาใหม่และปรับโฉมสาขาเดิม
- ผลักดันยอดขายให้เติบโตในทุกช่องทาง พร้อมยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ ครบครัน และบริการที่ดี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร
- บริหารธุรกิจอย่างระมัดระวังในช่วงเศรษฐกิจผันผวนด้วยกลยุทธ์ 3C (Cost, Capex, Cash Flow)
- เสริมแกร่งศักยภาพให้พนักงานด้วยกลยุทธ์ HAI (Human Intelligence + Artificial Intelligence) เพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
สร้างการจ้างงานกว่า 46,000 คนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ การขยายอาณาจักร ของ CRC ยังเป็นการสร้างการจ้างงานให้กับคนไทยในท้องถิ่นต่างๆมากกว่า 46,000 คน ยิ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกันในอนาคตอีกด้วย
นักวิเคราะห์แนะนำซื้อหุ้น CRC
เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งและการเติบโตด้านธุรกิจ รวมถึงแผนการดำเนินงานที่พร้อมพัฒนาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการปูพรมขยายสาขาในไทยที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้รายได้จากสาขาใหม่เข้ามาช่วยผลักดันยอดขายของ CRC อย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าหุ้นของ CRC มีอนาคตที่สดใส และมีแนวโน้มแข็งแกร่งระยะยาว โดยนักวิเคราะห์จาก บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” เป้า 41 บ./หุ้น เช่นเดียวกับ บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้า 49 บ.
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon