บอร์ดก.ล.ต. ได้ประชุมเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 67 เห็นชอบแนวทางการปรับปรุง ร่างประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับบทระวางโทษปรับเป็นเงินกับบริษัทสมาชิกหรือโบรกเกอร์ ตามที่ตลาดหลักทรัพย์เสนอ โดยได้จัดกลุ่มลักษณะการกระทำผิดใหม่ และการกำหนดบทระวางโทษปรับเป็นเงินให้เหมาะสมในแต่ละกรณี เพื่อให้มีความชัดเจนและมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
Naked Short โทษสูงสุด
เพื่อให้ค่าระวางโทษปรับเป็นเงินในแต่ละลักษณะการกระทำผิดมีความชัดเจนและเหมาะสม จึงได้กำหนดระดับความรุนแรงของลักษณะการกระทำผิดและระวางโทษที่สะท้อนกับความผิด ตัวอย่างเช่น กรณี Naked Short Selling ถือเป็นลักษณะการกระทำผิดที่มีระดับรุนแรงมาก บทระวางโทษปรับเป็นเงินต่อลักษณะการกระทำผิดจึงมีอัตราโทษปรับ 3 เท่าของกำไรที่ได้รับ แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น
ฟันไม่ยั้งจงใจทำผิดเอื้อประโยชน์ลูกค้าปรับเพิ่มอีก 10 ลบ.
ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดบทบัญญัติการเพิ่มโทษ สำหรับกรณีกระทำผิดโดยจงใจหรือ เอื้อประโยชน์ให้ลูกค้า หรือหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์โดยสามารถปรับเพิ่มได้อีกไม่เกิน 10 ล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดแนวทางการพิจารณาความผิดและลงโทษสมาชิกที่ใช้ภายใน เพื่อกำหนดโทษปรับเป็นเงินที่แน่นอน กำหนดปัจจัยเพิ่ม-ลดโทษอย่างชัดเจน ไม่เปิดช่องให้มีการใช้ดุลพินิจได้มากจนเกินสมควร และนำมาใช้บังคับกับสมาชิกทุกรายด้วยมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับกับการกระทำผิดของสมาชิกที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่หลักเกณฑ์บทระวางโทษใหม่มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป
มาตรการดังกล่าวทราบมาว่าขณะนี้ตลท.อยู่ในขั้นตอนเตรียมประกาศใช้ แต่ไม่ต้องกังวล…ทันใช้ภายในปีนี้แน่นอน และเป็นมาตรการกำกับดูแลตลาดทุนส่งท้ายในปี 67 นับเป็นการทำงานเกี่ยวเนื่องจากที่ได้ทำมา ตั้งแต่ Uptick การขึ้นทะเบียนของนักลงทุนประเภท HFT สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังของหน่วยงานกำกับทั้ง ตลท.และก.ล.ต. ในการที่จะดูแลตลาดทุน ด้าน “เอนก อยู่ยืน” รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวยืนยันว่าไม่ใช่เสือกระดาษ การปรับปรุงค่าระวางโทษครั้งนี้ ถือว่าเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลตลาดทุน เพราะบทลงโทษถือว่าเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีกูรูด้านตลาดทุน กล่าวอีกมุมหนึ่งไว้อย่างน่าสนใจว่า การเพิ่มดีกรีของบทลงโทษถือเป็นเรื่องดี ทำให้คนเกรงกลัวที่จะกระทำผิด เพราะคิดเป็นตัวเงินไม่น้อย แต่จุดอ่อนของกฎหมายไทยคือ การ “enforcement” หรือการบังคับใช้กฎหมาย อยู่ที่ว่าสามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้หรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญกว่า
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon