มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ต.ค.) ปิดผันผวน โดย Nasdaq ปิดทำนิวไฮ +103 จุด ในขณะที่ DJIA -260 จุด และ S&P500 -1.7 จุด ตลาดได้รับแรงสนับสนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ ขนาดใหญ่ นำโดย Nvidia, Amazon, Microsoft ที่พุ่งขึ้นกว่า 0.8% จาก sentiment บวกของ Tesla ที่ยังคงปรับตัวขึ้น (+3.3%) หลังรายงานผลประกอบการ 3Q24 และ คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ EV ปีหน้าสดใส
อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันจากหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค (HCA Healthcare -8.8%) จากผลกระทบของพายุเฮอริเคนต่อผลประกอบการของบริษัท, McDonald’s (-3%) และ กลุ่มธนาคาร (Goldman Sachs -2.3%)
สัปดาห์นี้ติดตามรายงานผลประกอบการ 3Q24 ของกลุ่มบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ อย่าง Alphabet, Apple และ Microsoft
รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
1) รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB เดือนต.ค. และ ตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนก.ย. (29 ต.ค.)
2) การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP เดือนต.ค. และ GDP 3Q24 (30 ต.ค.)
3) ดัชนี PCE – Core PCE เดือนก.ย. (31 ต.ค.) และ
4) รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง, การจ้างงานนอกภาคการเกษตร, อัตราการว่างงาน และ ดัชนี PMI จาก ISM เดือนต.ค. (1 พ.ย.)
สำหรับตลาดภูมิภาคสำคัญอื่นๆ ติดตาม การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BOJ, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนต.ค. และ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือนต.ค. (31 ต.ค.)
• SET Index : เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวผันผวนพักฐานบริเวณ 1,450-1,475 จุด เราเชื่อว่า SET ยังสามารถยืนเหนือ 1,450 จุดได้ และ แนะนำเข้าซื้อที่ 1,460 จุด
วันนี้ จับตาตัวเลขการค้าเดือนก.ย. ที่ตลาดคาดว่าตัวเลขส่งออกจะเติบโตที่ 3.0% yoy (vs. เดือนส.ค. +7.0% yoy) ตัวเลขนำเข้าเติบโตที่ 5.7% yoy (vs. เดือนส.ค. +8.9% yoy) และ ตัวเลขดุลการค้า เกินดุลที่ 1,843 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (vs. เดือนส.ค. เกินดุล 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ ติดตาม
1) การประชุมของรัฐบาลร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วันนี้ เพื่อหารือถึงมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ การช่วยเหลือธุรกิจ SME, การบริหารจัดการน้ำ และ แนวทางเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย และ
2) เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของไทย หลังกกต. สั่งสอบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วม กรณีอดีตนายกฯ ทักษิณ ครอบงำ
เนื่องจากทั้ง 2 ประเด็น เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ Fitch Ratings มีมุมมองว่าอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตของไทย ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาเศรษฐกิจส่งผลให้อันดับความน่าเชื่อถือลดลงจาก A เป็น BBB+ ในปี 2547 และ เคยลดเหลือเพียง BBB จากความไม่สงบทางการเมืองในปี 2552
• หุ้นแนะนำ
MOSHI : เราเชื่อว่า MOSHI ไม่ใช่แค่หุ้น Recovery play หลังปัญหาอุปทานชะงักงันที่กดดันผลประกอบการ 1H24 คลี่คลาย แต่บริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในปี FY25-26 จากแผนขยายสาขาเชิงรุก
(Take profit : 49.00 / Stop loss : 46.25)
AAV : เราเชื่อว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดคลายกังวลต่ออุปทานน้ำมัน หลังอิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในอิหร่าน รวมถึงการเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน และ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย จะเป็นประโยชน์ต่อ AAV
(Take profit : 2.94 / Stop loss : 2.74)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
