ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
รับแรงหนุนความเสี่ยงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังรัสเซียประกาศเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ในการรบต่อไป โดยระบุว่า ขณะนี้มีขีปนาวุธสำรองพร้อมใช้งานได้ทันที โดยรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ และอังกฤษโจมตีรัสเซีย ทำให้ตลาดกังวลว่าการต่อสู้ที่เกิดขึ้นอาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งจะยิ่งเร่งให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
(+) ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือน พ.ย. 67 มีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่อินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับสามของโลก ก็มีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นจากการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
(-) ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของกลุ่มประเทศยูโรโซนในเดือน พ.ย. 67 ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ที่ระดับ 48.1 โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงการหดตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซน ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบที่คาดว่าจะอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินโดนีเซียนำเข้าน้ำมันเบนซินลดลง 75% จากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ระดับ 0.07 ล้านตัน นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากการที่โรงกลั่นในญี่ปุ่นได้กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินเดียส่งออกน้ำมันดีเซลมายังสิงคโปร์ลดลงจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ระดับ 0.08 ล้านตัน ขณะเดียวกัน อินโดนีเซียนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าจากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 0.17 ล้านตัน สะท้อนอุปสงค์ในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon