มิติหุ้น – Trend Spotter
เรามองกรอบรายสัปดาห์ของ SET Index สัปดาห์นี้ ที่ 1430-1465 จุด โดย ประเด็นเศรษฐกิจโลกและไทยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ 1) ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ไตรมาส 3Q24 ของ สหรัฐฯ โดย ตลาดคาดเติบโต +2.8% qoq, 2) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน (ต.ค.) หรือ Personal Consumption Expenditure (PCE) ตลาดคาดเติบโต +2.3% yoy, +0.2% mom และ Core PCE ตลาดคาดเติบโต +2.8% yoy, +0.3% mom และ 3) ตัวเลขส่งออกเดือน (ต.ค.) ของไทยตลาดคาดเติบโต +5.2% yoy รวมถึง 4) การเข้าสู่เทศกาล “Black Friday” หรือ ฤดูการจับจ่ายใช้สอยของสหรัฐฯ
ปัจจัยในประเทศ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาล รธน.มีมติ 7 ต่อ 2 ไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในภาพรวม และ สอดคล้องกับมุมมองของเรา อย่างไรก็ดี ถึงแม้ Overhang ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะปลดล็อค แต่ ชัยชนะของทรัมป์ และ ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ จะยังคงจำกัด upside ของตลาด เราจึงแนะนำให้ระมัดระวังกับการลงทุนมากขึ้นและให้เน้นลงทุนในหุ้น Domestic play ที่ได้คะแนน ESG สูง รวมถึงประเด็น MSCI ปรับดัชนีรอบใหม่ในวันนี้ (จันทร์ที่ 25 พ.ย.) ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดความผันผวนช่วงท้ายตลาดได้
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ พัฒนาการณ์ล่าสุด รัสเซียได้โจมตีทางอากาศเข้าสู่ยูเครนสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และ ทางสหรัฐก็ได้มีการอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธโจมตีรัสเซียเพื่อเป็นการตอบโต้ ทำให้ภาพแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดัน และ สหรัฐฯได้มีการประกาศคว่ำบาตรสถาบันการเงินของรัสเซียมากกว่า 100 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้น คือ ก๊าซพรอมแบงก์ (Gazprombank) ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียซึ่งถือหุ้นโดยก๊าซพรอม บริษัทพลังงานของรัฐบาลรัสเซีย
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนของเรา ณ SET ที่ระดับต่ำกว่า 1,450 จุด หรือ บริเวณ 1,430-1,450 จุด เรามองเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมหุ้นไทยเพิ่มเติม ณ บริเวณ ดังกล่าวข้างต้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ 1) การอนุมัติโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป วงเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท 2) การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และ SME และ 3) การลดภาระหนี้ของเกษตรกร จากโครงการช่วยสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวเป็น 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท จากนี้ จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในภาคส่วนอื่นๆ อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ แผนกระตุ้นระยะยาวอื่นๆ
• หุ้นแนะนำ
SC : เราคงประมาณการ presales อยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านบาทในปี FY24 แต่ปรับเพิ่มประมาณการยอดโอนกรรมสิทธิ์ 6.6% เป็น 22.2 พันล้านบาท / 4Q24 น่าจะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในปี 2024
ยังแนะนำ “ซื้อ” SC และราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 3.14 บาท
(Take profit : 3.02 / Stop loss : 2.84)
IVL : สเปรด PET ในเอเชีย/ยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ qoq ใน 3Q24 จากอุปสงค์ตามฤดูกาล บวกกับโรงงานในจีนบางแห่งมีอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง
เป้าหมายของ IVL ที่จะลดค่าใช้จ่ายจากการปรับโครงสร้างการผลิตน่าจะเห็นได้ชัดเจนในปี 2025 หลังเสร็จสิ้นการปิดโรงงาน
(Take profit : 26.75 / Stop loss : 24.90)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon