ไทวัสดุ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล สุดปลื้มโมเดล White Format “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม” โตกว่า 30% เดินหน้าสร้างดีมานด์ในตลาดค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้านด้วย โชว์โซลูชัน O2O

8

มิติหุ้น  –  บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ตอกย้ำการเป็นผู้นำเจ้าแรกในวงการค้าปลีกฮาร์ดไลน์ ด้วยโมเดล White Format (ไฮบริดสโตร์) ที่ผสานความแข็งแกร่งของ 2 แบรนด์ มาเป็นโมเดิร์นเทรด “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม” เชื่อมโยงศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือช่าง สินค้าโครงสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้าน มารวมไว้ที่เดียวกัน ครองใจลูกค้าช่าง ผู้ประกอบการ และเจ้าของบ้านกลุ่ม Mid-to-High ทั่วประเทศไทย โดยโมเดลดังกล่าวช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปที่ผสมผสานระหว่างเรื่องงานก่อสร้างและงานตกแต่งบ้าน ได้อย่างครบครันและสะดวกสบายไว้ในที่เดียว

โดยในปี 2562 ไทวัสดุได้ริเริ่ม New Business Model ในรูปแบบไฮบริดสโตร์ ที่เรียกว่า White Format เป็นโมเดลทดลองแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจนในปี 2564 ทำการเปิดตัว White Format อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกที่สาขาศรีสมาน จังหวัดนนทบุรี และได้มีการรุกขยายเปิดสาขาเพิ่มขึ้นทั่วทุกภูมิภาค สำหรับในปี 2567 จะมี White Format รวมทั้งสิ้น 16 สาขา ได้แก่ ศรีสมาน, บางแสน, รังสิต คลอง4, ภูเก็ต ฉลอง, เมืองเอก, สมุทรปราการ, เชียงใหม่ สันทราย, บางใหญ่ ,นครอินทร์, อุดรธานี กุดสระ, พระราม 3 , บางนา, บางบัวทอง, สุขาภิบาล 3, ขอนแก่น และภูเก็ต

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม เป็น White Format (ไฮบริดสโตร์) เรียกได้ว่าเป็น Game Changer ที่เข้ามาพลิกวงการค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ซึ่งไทวัสดุถือเป็นรายแรกที่นำโมเดลดังกล่าวมาใช้เจ้าแรกในตลาด ที่จะเน้นปักหมุดตามหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพสูง มีพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. ไลน์สินค้าครบทุกหมวดหมู่มากกว่า 50,000 รายการ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน เน้นเพิ่มความหลากหลายและพรีเมียมมากขึ้น สามารถตอบโจทย์และขยายฐานลูกค้าในเมืองที่เป็นกลุ่ม Mid-to-High ที่มีกำลังซื้อสูง โดยฟอร์แมตใหม่นี้ส่งผลสำเร็จในเชิงรายได้เมื่อเทียบกับไทวัสดุฟอร์แมตเดิมโตขึ้น 30%

สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญของ White Format คือ การนำ Insight และ Shopping lifestyle ของลูกค้าทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของสินค้า คุณภาพ ราคา รวมถึงการบริการ และช่องทางการขายจนได้เป็นกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จของ White Format ดังนี้

  1. White Format Revolution ถือว่าเป็นปราฏการณ์ใหม่ของวงการค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ในรูปแบบไฮบริดสโตร์ซึ่งได้มีพัฒนาไลน์สินค้าเพื่อตอบโจทย์ตามเป้า Customer Mix ที่แบ่งเป็นลูกค้าเจ้าของบ้านเพิ่มขึ้น 60%และลูกค้ากลุ่มช่าง ผู้ประกอบการ 40%
  2. Product Variety, Branded and House Brand เพิ่มความหลากหลายของไลน์สินค้าและครบครันมากขึ้นทั้งแบรนด์ชั้นนำและ House brand รวมมากกว่า 50,000 รายการ ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือและอุปกรณ์งานช่าง ฮาร์ดแวร์ วัสดุโครงสร้าง กระเบื้องพื้นและผนัง อุปกรณ์และระบบไฟ-น้ำ สุขภัณฑ์ อุปกรณ์และของใช้ในห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนสินค้าของตกแต่งในบ้านอีกมากมาย
  3. Product Premiumization ยกระดับประสบการณ์การตกแต่งบ้านสู่ความพรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผสานความงามของการออกแบบและความมีสไตล์ในทุกหมวดหมู่สินค้า เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Mid-to-High และ High-End ผู้ใส่ใจคุณภาพและต้องการยกระดับการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบ เราได้คัดสรรคอลเลคชั่นพิเศษ อาทิ โซฟาแบรนด์ Calina เฮาส์แบรนด์ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย, สุขภัณฑ์อัจฉริยะที่ผสานนวัตกรรมประหยัดน้ำกับความทันสมัยในการใช้งาน รวมถึงคัดสรรโคมไฟแชนเดอร์เรีย ไฟระย้า ทั้งสไตล์คลาสสิกและโมเดิร์น และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะทีวีขนาดจอใหญ่ 75 –100 นิ้ว หรืออ่างอาบน้ำวน ระบบ Whirlpool เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับสำหรับคนรักบ้าน
  4. Upgrade Shopping Ambience การอัพเกรดสินค้าและบรรยากาศ ด้วยความร่วมมือกับคู่ค้าพันธมิตรได้มีการพัฒนา 4 ปัจจัย ได้แก่

1)     Expand Assortment to cover Mid-to-High line up ได้มีการขยายไลน์สินค้าและอัพเกรดในทุกหมวดหมู่ทั้งเชิงคุณภาพและความหลากหลาย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบนมากขึ้น

2)    Big Investment to upgrade Shopping Ambience การลงทุนเพื่ออัพเกรด Visual Image และบรรยากาศในการช้อป โดยเฉพาะในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลตอบรับพบว่า ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด 4 เท่า

3)    Upgrading and Increasing Sales Staff การยกระดับความสามารถของพนักงาน PC ให้มีความเชี่ยวชาญในสินค้าพรีเมียมมากขึ้น

4)    Upgrading After Sales Services พัฒนาการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร พร้อมบริการติดตั้งช่างจาก vFIX ช่างมือ 1 ที่สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำกับลูกค้า

  1. Reachable & Localized Location การเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค และเร่งขยายอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นในกลุ่มหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพสูงในด้านการลงทุนอุตสาหกรรมก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัย และธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งภายในปี 2567 นี้จะเปิด White Format รวมเป็น 16 สาขา และยังคงรุกขยายเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องในปีต่อไป

นายสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งมอบประสบการณ์ช้อปที่ดีที่สุดเป็นสิ่งที่ไทวัสดุให้ความสำคัญมาตลอด จึงได้พัฒนาเชิงรุกในการให้บริการทุกช่องทางทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์เรื่องงานช่างและเรื่องบ้าน ได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น ดังนี้

  • vFIX ช่างมือ1บริการครบจบเรื่องบ้าน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่งานออกแบบ 3D จากทีมดีไซเนอร์มืออาชีพ งานติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา งานซ่อมบำรุง งานรีโนเวทตกแต่ง ต่อเติมที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นบริการเสริมภายใต้แบรนด์ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม มีจุดให้บริการ 86 สาขาทั่วประเทศไทย
  • Express Delivery & Instant Pick upยกระดับการให้บริการส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ บริการส่งฟรี 40 กม. (Free Delivery), การจัดส่งสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง (Express Delivery), บริการจัดส่งภายในวัน และวันถัดไป (Same Day & Next Day Delivery) รวมถึงการส่งคืนหรือเปลี่ยนสินค้าด้วย (Click & Collect)
  • Core DNA-Price Campaign เพื่อรักษามาตรฐานด้านราคาและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จึงได้ดำเนินแคมเปญ “ไทวัสดุใช่เลย ถูกจริง” โดยใช้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ

– ถูกจริง มั่นใจ – ตรวจสอบราคาสินค้ากลุ่มยอดนิยมเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้สินค้าราคาถูกและคุณภาพดี

– ถูกจริง ทุกวัน – ตรึงราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันกว่า 2,000 รายการให้อยู่ในราคาคงที่ ไม่ว่าจะซื้อช่วงเวลาไหนก็จะได้ราคาเดียวกันไม่มีปรับขึ้น

– คืนส่วนต่าง 120% – หากพบสินค้าราคาถูกกว่าที่ร้านค้าอื่นในขนาดและยี่ห้อเดียวกัน พร้อมคืนส่วนต่างให้ 120%* เพื่อรับประกันราคาที่ดีที่สุด

“อีกความพิเศษในการเสริมความแข็งแกร่งของไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม คือการยกระดับแพลตฟอร์มเชื่อมโลกออฟไลน์ ออนไลน์เข้าด้วยกันโดยการพัฒนาช่องทาง Omnichannel และเป็นตัวจริงเรื่อง O2O (Online-to-Offline) ที่ให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าทั้งในการช้อปที่หน้าร้าน (Physical) และการช้อปออนไลน์(Digital) ผ่านทาง Website, Social Commerce (Line -Chat & Shop, Facebook, Call & Shop, Call Center, Application, Call center 1308) ซึ่งนำเสนอในคอนเซ็ปต์ “Phygital” คือ การเชื่อมต่อประสบการณ์ ช็อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะซื้อผ่านช่องทางใด ลูกค้าจะได้รับการนำเสนอสินค้า บริการและโปรโมชันที่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาพัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน Thaiwatsadu ซึ่งมียอดลูกค้าดาวน์โหลดมากกว่า 665,000 ราย เป็นเสมือนผู้ช่วยของช่าง ผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน ด้วยฟีเจอร์ที่มีความเป็น Unique only at Thaiwatsadu ที่เดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น”

  • Daily Steel Price Ordering Online เจ้าแรกในตลาด ที่อัพเดตราคาเหล็กออนไลน์รายวัน สั่งซื้อได้ทันที และมีตัวช่วยในการคำนวนน้ำหนักรวมเหล็ก ช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถบริหารจัดการสต๊อกและต้นทุนเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Feature Mixed Paint & Calculator ครั้งแรกในวงการสีเมืองไทย ที่ลูกค้าและผู้รับเหมาสามารถเลือกซื้อสีผสมทาอาคารกว่า 20,000 เฉดสีได้ด้วยตัวเอง รวมถึงสามารถคำนวนปริมาณสีที่ต้องใช้ในพื้นที่ที่ต้องการ
  • Tailor Made Curtains Calculatorโปรแกรมสำเร็จรูปที่ช่วยให้การคำนวณผ้าม่านสั่งตัดเป็นเรื่องง่าย สามารถคำนวนความกว้าง ความยาวตามที่ต้องการ มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ และเฉดสี พร้อมมีบริการติดตั้งจากช่างมือ 1 vFIX

ในช่วงท้ายปีนี้ ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ได้รุกตลาดเฟสทีฟ จำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่มากถึง 2,000 รายการ อีกทั้งยังเป็นเจ้าแรกที่นำเข้าต้นคริสต์มาสสด สายพันธุ์ Balsam Fir Plants ที่หอมที่สุด ปลูกในเมือง Lunenburg County รัฐ Nova Scotia ในประเทศแคนาดา เข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นสินค้าไฮไลท์ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าเจ้าของบ้าน รวมถึงผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงแรม เพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลพิเศษนี้

ในขณะเดียวกันยังได้ดำเนินการโครงการ “ความสุขที่มีกลิ่นหอม” ด้วยการส่งมอบต้นคริสต์มาสสดจากแคนาดาสู่ผู้ด้อยโอกาสในสังคมอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี รวมถึงการสมทบทุน 50 บาท ในการซื้อต้นคริสต์มาสสด 1 ต้นของลูกค้า ให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อสนับสนุนการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น สอดคล้องกับปรัชญาดำเนินธุรกิจ CRC CARE ของเซ็นทรัล รีเทล ในด้าน CRC Community ช่วยเหลือและเคียงข้างคนไทยในสังคม เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ซีอาร์ซี ไทวัสดุ มุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าในทุก Touchpoint ผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ เข้าใจถึงไลฟสไตล์และความต้องการเฉพาะบุคคล ทำให้ไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม ในทุกฟอร์แมท เป็นเดสติเนชันของการช้อปสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้านอย่างครบวงจร ครบครัน จบได้ในที่เดียว ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนธุรกิจฮาร์ดไลน์สีเขียว ด้วยกลยุทธ์ CRC’s “ReNEW”  ผลักดันการดำเนินงานทางด้านสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ตั้งแต่การติดตั้ง Solar Rooftop ช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 2.5 ล้านต้น การพัฒนาระบบกรีนโลจิสติกส์ ด้วยการนำรถพ่วงแม่ลูกพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) มาใช้ในการขนส่งเป็นเจ้าแรกของวงการค้าปลีก สามารถลดการใช้น้ำมันดีเซลมากถึง 340,000 ลิตรต่อปี รวมทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ถึง 900 ตันต่อปี และยังมีอีกหลายโครงการที่ทำอย่างต่อเนื่อง” นายสุทธิสาร กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon