มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการและจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ด้านตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวลงก่อนรีบาวด์ขึ้นมาปิดบวก นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ และ หุ้นบริษัทประกันภัย Direct Line (+41.4%) หลังปฏิเสธข้อเสนอการซื้อกิจการของบริษัทคู่แข่งอย่าง Aviva ท่ามกลางการคาดเดาว่า Aviva อาจจะกลับมาพร้อมกับข้อเสนอที่สูงกว่าเดิม
นอกจากนี้ บริษัทในอุตสาหกรรมชิปของเนเธอร์แลนด์อย่าง ASML, Besi และ ASM International ต่างปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังมีรายงานว่าข้อจำกัดด้านการค้าจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์และชิปหน่วยความจำ AI ที่จะส่งไปยังจีน อาจไม่เข้มงวดอย่างที่คาดการณ์กันไว้ ซึ่งรายงานข่าวนี้ เป็นแรงสนับสนุนให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ดัชนี CAC40 ของฝรั่งเศสฟื้นตัว (+0.51%) แม้ว่าความเสี่ยงจากการเมืองในประเทศจะทำให้เบี้ยประกันความเสี่ยงของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นจนเทียบเท่ากรีซเป็นครั้งแรกก็ตาม
ประเด็นสำคัญอื่น เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) ได้แก่ การประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp ของธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) สู่ระดับ 3.0% สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะยังคงมีมติคงไว้
จากนี้ ติดตามการประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจของจีนที่จะจัดขึ้นในเดือนธ.ค. สัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนเพิ่มเติม และ รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนพ.ย. ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 50.3 (vs. เดือนต.ค. 50.1), การเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนพ.ย. วันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.3% yoy (vs. เดือนต.ค. 2.0%)
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบแคบบริเวณ 1,420-1,435 จุด เรามองว่าปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ และ ตลาดรับรู้ปัจจัยต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว
ประเด็นสำคัญตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) ได้แก่ กรณี ตลท. สั่ง PTT-OR ชี้แจง หลังมีเอกสารว่า DSI สอบสวนผู้บริหารบริษัทหลุดออกมา โดยล่าสุด ปตท. ออกมาประกาศว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ติดตามการประชุมครม. ในวันนี้ ว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ JTC เพื่อเจรจาจัดสรรผลประโยชน์ร่วมกันทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา ได้ทันหรือไม่ หลังมีประเด็นพิพาทว่าไทยจะเสียดินแดนเกาะกูด จ.ตราด จึงเกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกความเข้าใจพื้นที่ทับซ้อนของไหล่ทวีปหรือ “MOU 44” ที่เคยลงนามไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ติดตาม รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนต.ค. วันนี้ และ สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้จากจากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากที่กระทบประชาชนแล้ว 1.3 แสนครัวเรือน โดยเฉพาะ จ.ยะลา ที่หนักสุดในรอบ 37 ปี
• หุ้นแนะนำ
ADVANC : AIS มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นสุทธิแข็งแกร่ง รวมทั้งมีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ (ARPU) เพิ่มสูงขึ้นใน 3Q24 อีกทั้ง AIS ยังเป็นหุ้น Top pick ของเราในกลุ่มโทรคมนาคมของไทย เนื่องจากกำไรมีคุณภาพและกระแสเงินสดอิสระสูงในปี FY24-26
(Take profit : 297 / Stop loss : 281)
BCH : ราคาของ BCH underperform คู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ YTD จากความกังวลเรื่องที่ผู้ป่วยจากคูเวตมีจำนวนลดลงและการปรับลดค่าบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงของสปส. (Adj.RW>2) แต่เราเชื่อว่าทั้งสองประเด็นน่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้
(Take profit : 17.5 / Stop loss : 15.8)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon