อันดับที่ 1 WHA ฟื้น! รุกครึ่งปีหลัง มั่นใจขายที่ดินตามเป้า 1,400 ไร่ จ่อเซ็นลูกค้ารายใหญ่เช่าคลัง โบรกเชียร์ซื้อ เป้า 5บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อน หลังจากที่ปรับตัวลดลงเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน ล่าสุด (10.15 น.) ราคามาอยู่ที่ 3.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 1.62% มูลค่าซื้อขายกว่า 43 ล้านบาท ด้านนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA เผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 ภาพรวมธุรกิจมีการปรับตัวคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจพัฒนาโลจิสติกส์ เนื่องจากพื้นที่การให้บริการของบริษัทส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลบวกให้มีการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” สำหรับหุ้น WHA ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 5 บาท
อันดับที่ 2 CK แบ็กล็อก 6 หมื่นลบ. คาดครึ่งปีหลังคว้างงานเพิ่ม จากโครงการลงทุนภาครัฐ แนะ “ซื้อ” เป้า 35 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่า บมจ. ช.การช่าง หรือ CK ครึ่งหลังของปี 2561 มีโอกาสคว้างานประมูลเพิ่มขึ้น จากแบ็กล็อกปัจจุบันที่มี 6 หมื่นล้านบาท จากโครงการลงทุนของภาครัฐ อาทิ รถไฟฟ้าทางคู่, รถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยาย และทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง รวมถึงงานรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน จากช่วงต้นปีที่เซ็นสัญญางานใหม่ ราว 3 พันล้านบาท ขณะที่กำไรในปีนี้แม้จะยังเติบโตได้ยาก เพราะฐานรายได้ปีก่อนมีงานเพิ่มพิเศษ อีกทั้งการขะลอเซ็นโครงการใหม่ แต่คาดว่างานใหม่ที่จะได้มาในช่วงปลายปี 61 นี้ จะหนุนกำไรให้กลับมาเติบโตได้ในปี 62 ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 35 บาท
อันดับที่ 3 โหรหุ้นมอง SET รีบาวน์ รับอานิสงส์ปัจจัยภายนอกเริ่มทุเลา หุ้นเด่น TKS, SVI
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) โดยนางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้รีบาวน์ โดยมีปัจจัยหนุนจาก ความคาดหวังเชิงบวกในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน (Trade War) ที่จะมีการส่งตัวแทนมาเจรจากันในวันที่ 22-23 สิงหาคมนี้ ซึ่งคาดหวังว่าผลการเจรจาจะออกมาดี โดยมีแนวต้าน 1,690 จุด และมีแนวรับที่ 1,675 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรในกลุ่มที่มีผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2561 ออกมาดีตามคาด โดยมีหุ้นเด่น ได้แก่ บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี หรือ TKS แนะนำซื้อเก็งกำไร เป้าพื้นฐาน 16.20 บาท และ บมจ.เอสวีไอ หรือ SVI แนะนำซื้อเก็งกำไร เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท
อันดับที่ 4 PTTGC ไตรมาส 3/61 คาดกำไรดี หมดภาระชดเชยสต็อกหาย หนุนทั้งปีโต 4.4 หมื่นลบ. โบรกให้เป้า 111 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมิน ว่า ไตรมาส 3/61 ได้ชดเชยค่าเสียหายจากกรณีวัตถุดิบคงคลังของ GGC ไปแล้วในไตรมาส 2/61 ราว 1,400 ล้านบาท ดังนั้น ในไตรมาส 3 นี้จะไม่มีผลกระทบประเด็นนี้ จึงคาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดีกว่าไตรมาส 2/61 แม้กำไรจากสต๊อกน้ำมันจะลดลง และสเปรดราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์จะปรับตัวลดลงก็ตาม ขณะที่ภาพรวมปี 61 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตเพิ่มขึ้น 13% หรืออยู่ในระดับ 4.4 หมื่นล้านบาท เทียบกับปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ 3.92 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้คาดว่า PTTGC จะจ่ายเงินปันผลในครึ่งปีแรก 61 ที่ 1.90 บาท อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยที่ 2.3% ปัจจุบันยังให้ราคาที่เหมาะสมสำหรับปีนี้ที่ 111 บาท พร้อมกับคำแนะนำ “ซื้อ”
อันดับที่ 5 AECS จับตาปัญหาตุรกี ให้กรอบดัชนี 1,675-1,715 จุด แนะลงทุนหุ้นปันผลสูง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล. เออีซี หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย คาดในช่วงต้นเดือน ส.ค. SET Index เริ่มชะลอการปรับขึ้นต่อ และมีความผันผวนสูงขึ้น จากแรงขายทำกำไร โดยมีแนวต้าน Horizontal Line ที่ 1,715 จุด และแนวรับที่ 1,675 จุด ทั้งนี้ มองว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกับสถานการณ์ด้านการเงินในตุรกี เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินลิร่าอ่อนค่าลงแรงกว่า 20% ซึ่งถูกกดดันด้วยความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น ดังนั้น ในช่วงสั้นจึงยังให้นักลงทุนจับตาประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นกลุ่ม High Interim Div.Yield สูง ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมายในช่วง 2 เดือนนี้ ได้แก่ SNC (Div.Yield 3.4% XD 15 ส.ค.), KCAR (Div.Yield 3.0%XD 28 ส.ค.), PSH (Div.Yield 2.6%XD 23 ส.ค.) และ INTUCH (Div.Yield 2.4%XD 16 ส.ค.)
www.mitihoon.com