CGSI : Trend Spotter

14

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) เนื่องในโอกาสวันไว้ทุกข์แห่งชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ อย่างไรก็ตาม จับตารายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่ประธาน Fed สาขาบอสตันและฟิลาเดเฟีย กล่าวแสดงความคิดเห็นสนับสนุนให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยวันนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง, การจ้างงานนอกภาคการเกษตร และ อัตราการว่างงาน เดือนธ.ค.

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 0.8% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ และ ยุโรป ส่งผลให้แนวโน้มการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันสำหรับการทำความร้อนเพิ่มสูงขึ้น

ติดตามการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย ที่มีรายงานว่าสหรัฐฯ มีแผนที่จะกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันในจีนชะลอตัวลง รวมถึงนโยบายของว่าที่ปธน. ทรัมป์ ที่ตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เคยทำในสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่ง

นอกจากนี้ จับตาดุลอำนาจในตะวันออกกลาง ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายหลัก หลังนายพลโจเซฟ อูน ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ได้รับเลือกให้เป็นปธน. คนใหม่ของเลบานอน จากเดิมที่ครองอำนาจโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของอิหร่าน

ความกังวลจากความไม่แน่นอนภายในประเทศสหรัฐฯ ทั้งเศรษฐกิจและนโยบายของทรัมป์ ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.7% นอกจากนี้ ติดตาม สถานการณ์วิกฤตไฟป่าใน LA ที่ตลาดคาดว่าจะสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 1.7 ล้านล้านบาท

• SET Index : เราคาดว่า SET Index โดยภาพรวมยังคงเคลื่อนไหว Sideway down บริเวณ 1,350-1,370 จุด หลังดอลลาร์แข็งค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และ ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตอยู่ในอัตราที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าดัชนีวันนี้มีโอกาส Technical Rebound 5-10 จุด หลังดัชนีร่วงแรงกว่า 20 จุด เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) จากแรงขายลดความเสี่ยงความไม่แน่นอนของ Global Factor

ความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศและสถานการณ์ในประเทศที่ยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน อาทิ การไถ่ถอนกองทุน LTF เรายังคงแนะนำในหุ้นกลุ่ม Defensive Play และ Domestic Play

โดยสำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีก แม้ว่า SSSG น่าจะชะลอตัวและทำให้ความน่าสนใจของกลุ่มค้าปลีกลดลง แต่เราเชื่อว่าผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ยังคงมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งใน 4Q24 นำโดยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากส่วนผสมการขายที่ดีขึ้น โดย ฐานที่ต่ำน่าจะทำให้ผู้ค้าปลีกกลุ่ม Home improvement มี SSSG กลับมาเป็นบวก และ 4Q24 น่าจะเป็นไตรมาสที่ผู้ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นและไลฟ์ สไตล์มีผลประกอบการแข็งแกร่งที่สุด

อีกทั้งเราแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงอย่าง PTTEP/SPRC ท่ามกลางการคาดการณ์ของเราว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับลดลงเหลือ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปี 2025 เพราะอุปสงค์อ่อนตัวและประเทศ non-OPEC เพิ่มการผลิต รวมถึงเราเชื่อว่าค่าการกลั่นน่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2025-26 เนื่องจากอุปทานจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง

สำหรับหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมของไทย เราปรับลดคำแนะนำเป็น Neutral เนื่องจาก การประเมินมูลค่าหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าแพงสำหรับเรา และ เราเชื่อว่าแนวโน้มหุ้นกลุ่มนี้ในปี 2025F-26F จะได้รับแรงหนุนจากการเติบโตที่ช้าลงของ Organic growth ในขณะที่ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบอาจสูงขึ้นเนื่องจากการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะมีขึ้น (ภายใน 3Q25F)

• หุ้นแนะนำ
GULF : เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง เป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้น GULF เพื่อ Trading เก็งกำไรระยะสั้นจากแรงซื้อกลับ

(Take profit : 60.00 / Stop loss : 56.25)

ADVANC : ราคาหุ้น AIS สูงกว่าดัชนี SET 33.4% ในปี 2024 เราเชื่อว่าการประเมินมูลค่าที่ 8.6x EV/EBITDA และ 22.7x P/E ในปี 2025F สะท้อนถึงการแข่งขันที่ผ่อนคลายลงในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์เป็นอย่างดี และการเติบโตของ EPS อย่างแข็งแกร่งที่ 5.4-21.2% ในปี 2024F-26F โดยเรามองว่าเรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงวานนี้กว่า -2.8% เป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้น เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น

(Take profit : 286 / Stop loss : 271)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon