มิติหุ้น – ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้รวม 236,547 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน
3 ล้านบาท จำนวน 123,774 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2567 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2566 สินเชื่อคงค้าง 1,800,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06%, สินทรัพย์รวม 1,884,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53%, เงินฝากรวม 1,630,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 89,117 ล้านบาท
คิดเป็น 4.95% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนการแก้หนี้ที่ตรงจุดให้กับลูกค้า ยืนยันพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เดินหน้าสนับสนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง
ในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มีคุณภาพชีวิต และความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้
236,547 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 123,774 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2567 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2566 ธอส. มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,800,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% มีสินทรัพย์รวม 1,884,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53% และเงินฝากรวม 1,630,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีจำนวน 89,117 ล้านบาท คิดเป็น 4.95% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 5 ซึ่งเป็นผลมาจากการแก้ไขหนี้ให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด ด้วยการจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้
ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ให้ได้รับ
ความช่วยเหลือปรับลดดอกเบี้ย และลดเงินงวด ส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนสูงถึง 151,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.68% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL ที่ระดับ 169.59% สะท้อนถึงความมั่นคงและพร้อมในการรองรับผลกระทบในอนาคต และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ณ เดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.88% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.50% โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็นจำนวนมาก เกิดจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ด้วยการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือประเภทละ 0.01% และการเพิ่มเพดานราคาซื้อขายที่อยู่อาศัยจากเดิมที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 7 ล้านบาท ประกอบกับมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการขอสินเชื่อ
ระยะยาวมากขึ้น นอกจากนี้ ธอส. ยังจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอาชีพ ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย และผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 หรือ 40 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรกเพียง 1.59% ต่อปี, สินเชื่อบ้าน Happy Home สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3.00% ต่อปี, มาตรการสินเชื่อซื้อ – สร้าง สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3.00% ต่อปี และมาตรการสินเชื่อซ่อม – แต่ง สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ต้องการกู้เพิ่มวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3 ปี เพียง 1.00% ต่อปี และสินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส. อัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรกเพียง 0.71% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.71% เป็นต้น
สำหรับในปี 2568 ธอส. คงเดินหน้าสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ตามนโยบาย
ของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
และปานกลาง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการมีที่อยู่อาศัย
อย่างเหมาะสม ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง และสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการ
บ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก
เพียง 2.50%, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี และสินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568 สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 เท่ากับ 2.20% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เพียง 2.90% โดย ธอส. ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 อยู่ที่ 250,603 ล้านบาท นอกจากนี้ ธอส. ยังดูแลลูกค้าผ่านมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ายังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป โดยผู้ที่สนใจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธอส. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon