CGSI : Trend Spotter

15

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงมาปิดแดนลบอีกครั้ง เพื่อรอรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติม สำหรับประเมินทิศทางการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงสุนทรพจน์ของนายโดนัล ทรัมป์ ที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า (20 ม.ค.) และ การเปิดเผยผลประกอบการ 4Q24 ของบจ. เพิ่มเติม หลังรายได้ 4Q24 ของ United Health ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ได้ฉุดราคาหุ้นลงกว่า -6.0% ขณะที่ ผลประกอบการของ Morgan Stanley (+3.9%) ออกมาสดใส

ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่ได้มีการเปิดเผยออกมานั้น ยังคงมีความไม่แน่นอน โดยดัชนียอดขายปลีกเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% mom ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.6% (vs. เดือนพ.ย. 0.8%) และ Core retail sales เติบโต 0.4% mom ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.5% (vs. เดือนพ.ย. 0.2%) ขณะที่ Initial jobless claim เพิ่มขึ้น 14,000 คน สู่ระดับ 2.17 แสนคน สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.1 แสนคน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่ชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคและตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย ที่เติบโตระดับ 44.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ -5.0 (vs. เดือนธ.ค. -10.9) ส่งผลให้ตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มที่ Fed จะชะลอการลดดอกเบี้ย ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกผู้ว่าการ Fed ที่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลงมาที่ระดับ 4.62% ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า +1.2%

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมาปิด -1.7% หลังมีคาดการณ์ว่ากลุ่มกบฏฮูตีอาจหยุดโจมตีเรือในทะเลแดง จากข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา รวมถึงแรงกดดันจากแนวโน้มการชะลอลดดอกเบี้ยของ Fed

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นวันนี้ติดตามรายงานตัวเลข GDP 4Q ของจีน และข้อมูลเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของยูโรโซน รวมถึงรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเดือนม.ค. จาก IMF

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,340-1,360 จุด และ ระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งปธน. สหรัฐวันที่ 20 ม.ค. ขณะที่ปัจจัยในประเทศจะเริ่มมีการรายงานผลประกอบการ 4Q24 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร

โดยประมาณการจากธนาคารที่เราทำการศึกษาจะทำกำไรสุทธิใน 4Q24 เติบโต yoy จากอัตราการสำรองหนี้สูญที่ลดลง แต่ลดลง qoq เพราะผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ เราคาดว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเติบโตแข็งแกร่ง yoy ใน 4Q24 จากการบันทึกกำไรจากการเงินลงและกำไรจากเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งเรายังแนะนำ Neutral ในหุ้นกลุ่มธนาคาร เพราะคาดว่ากำไรก่อนตั้งสำรองจะเติบโตลดลง และมี ROE เพียง 9.0% ในปี FY25-26

ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยล่าสุด
1) ในงาน CPAXT Open House 2025 ได้เปิดเผยถึงแผนที่จะมุ่งเน้นการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเรามองว่าการตั้งเป้า SSSG ท่ามกลางสภาวะการบริโภคที่ชะลอตัว แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นจากแผนการควบรวมกิจการจะเป็นไปได้ แต่การเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงสินค้าและประสิทธิภาพอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย

2) หลังการปราศรัยของนายทักษิณกรณีลดค่าไฟลงเหลือ 3.70 บาท/หน่วย ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าไปแล้วนั้น ล่าสุด กกพ. เสนอลดค่าไฟทันที 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาท/หน่วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการขานรับจากภาคเอกชนออกมา

• หุ้นแนะนำ
CRC : เราเชื่อว่า CRC จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่โดดเด่นที่สุดสำหรับปี FY25 เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกจากจะทำให้ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการแข็งแกร่ง รวมถึงมีปัจจัยบวกจากมาตรการ Easy E-receipt ที่เริ่มขึ้นเมื่อวานนี้เป็นวันแรก (16 ม.ค.-28 ก.พ.)
(Take profit : 36.75 / Stop loss : 34.00)

KBANK : เราแนะนำหุ้น KBANK สำหรับการ Trading ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยผันผวน หลังราคาหุ้นปรับตัวลดลงมา -1.2% เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) รวมถึงเก็งกำไรก่อนการรายงานผลประกอบการ 4Q24 ของหุ้นกลุ่มแบงก์
(Take profit : 163.5 / Stop loss : 158.0)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon