Pi daily อาจพักตัวบ้างหลังฟื้นมาแรง แต่ยังประเมินพักเพื่อไปต่อ

7

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.3% ขณะที่ S&P500 , Nasdaq ปิดในแดนบวกเช่นกันโดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นในกลุ่ม Tech ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.4% โดยที่ไร้ปัจจัยที่นัยยะสำคัญเป็นเพียงแรงทำกำไรปกติ

เมื่อคืนที่ผ่านมามิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในฝั่งสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้น Dow Jones ยังคงปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง เพราะ Trump ระบุว่าจะมีการลงทุนครั้งใหญ่ในธุรกิจ AI จากการร่วมมือกันในหลายภาคส่วน ทำให้เมื่อคืนกลุ่ม Tech Outperform มากที่สุด (+2.5%) ส่วนสินทรัพย์อื่นๆพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับ Dollar Index กลับมาแข็งค่าเช่นกันแต่ทั้งนี้เงินบาทพบว่ายังคงแข็งค่า ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนกับตลาดหุ้นไทยผ่านกระแสเงินทุน โดยวานนี้เห็นสัญญาณเชิงบวกจากการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติราว 1.7 พันล้านบาท นับเป็นการกลับมาซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 10 วันทำการ ทั้งนี้เชื่่อว่ามีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะซื้อต่อเนื่องด้วยสัญญาณเชิงบวกจากเงินบาทที่แข็งค่า สงครามการค้าที่ดูมิได้รุนแรง Valuation หุ้นไทยที่ไม่แพงมากนัก หลังจากนี้ประเมินว่านักลงทุนจะกลับมาให้น้ำหนักกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มเห็นการรายงานออกมา

ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์นั้นภาพรวมถือว่าเป็นบวกกับตลาดหุ้นจากการรายงานที่ล้วนแล้วแต่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์และยังเป็นอีกปัจจัยสะท้อนว่าผู้ประกอบการขนาดใหญ่ยังสามารถทำกำไรได้ดี สวนทางกับเศรษฐกิจในภาพรวมที่อาจมิได้ดีมากนัก หรือชี้ว่าผู้รับผลกระทบอาจเป็นขนาดเล็กและขนาดกลาง ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg คาดการณ์ที่ 2.21 แสนราย วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1355 – 1375 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนแม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้นมาบ้างแต่ Valuation ยังไม่แพงและแรงกดดันต่างๆก็ดูสะท้อนในราคาไปมากแล้ว จึงแนะสะสมได้เช่นเดิม เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD) อสังหา (AP SPALI) ส่งออก (ITC TU)

CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.25 บาท)
มีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรใน 4Q24 ด้วยแนวโน้มเติบโต QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ถึงแม้มีโอกาสอ่อนตัว YoY ด้วยค่าใช้จ่ายโรงแรมเปิดใหม่ที่สูงขึ้น และโรงแรมเดิมที่อย่ระหว่างปรับปรุง 2 แห่งคาดให้บริการได้บางส่วนในปลายปี 2024 อย่างไรก็ตามในปี 2025 เราเห็นแนวโน้มที่ดีของธุรกิจหลัก หนุนด้วยการเติบโตของนักท่องเที่ยว และ RevPar ที่คาดสูงขึ้น จากการปรับอัตราค่าที่พักให้เหมาะสมกับโรงแรมที่ได้รับการปรับปรุงในปี 2024

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
แนวโน้มกำไร 4Q24 จะเติบโต YoY และ QoQ ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว การเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภท Ready-to-eat และ Ready-to-drinks รวมถึงสินค้าใหม่ๆจาก SME โดยแนวโน้ม SSSG ช่วง QTD ของ 4Q24 ยัง +1% ถึง +3% เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon