มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนก่อนรีบาวด์ปิดบวก ขานรับผลประกอบการ 4Q24 หุ้นเทคฯ ชั้นนำส่วนใหญ่ที่ออกมาสดใส (IBM +13.0%, Tesla +2.9%, Meta +1.6%) สวนทางกับ Microsoft (-6.2%) ที่ร่วงลงมาหลังธุรกิจ Azure cloud มีการเติบโตต่ำกว่าที่ตลาดคาด อีกทั้งบริษัทได้คาดการณ์อัตราการเติบโตของ capex ในปี 2026F ลดลง yoy
ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของปธน. ทรัมป์ ที่ยืนยันจะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก-แคนาดา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ให้กับสหรัฐ อัตรา 25% วันเสาร์นี้ (1 ก.พ.) ฉุดให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดบวก +0.4% และ สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างราคาทองคำปรับตัวขึ้น +1.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขายหลังตัวเลขการเติบโต GDP 4Q24 อยู่ที่ 2.3% qoq ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.7% (vs. 3Q24 ที่ 3.1%) กดดันให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลงมาที่ 4.5% ดอลลาร์อ่อนค่า (Dollar index ลดลงมาที่ 107.8) ขณะที่จำนวนผู้ยืนขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ลดลง 16,000 ราย มาที่ระดับ 2.07 แสนราย
จับตารายงานผลประกอบการ Amazon ในสัปดาห์หน้า รวมถึงรายงานตัวเลขดัชนี PCE สหรัฐเดือนธ.ค. วันนี้
ด้านตลาดหุ้นยุโรปยังคงปิดทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 (STOXX60 ปิดที่ 539 จุด) ขานรับ ECB มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp สู่ระดับ 2.9% สอดคล้องกับที่ตลาดคาด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะลดลงมาสู่ระดับเป้าหมาย 2% ในปีนี้
สำหรับงบบริษัทจดทะเบียน Apple รายงานรายได้ 4Q24 ที่ US$124.3bn (+4% yoy) ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ US$124.4bn และ กำไรที่ US$36.33bn สูงกว่าตลาดคาด US$35.62bn ซึ่งฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนที่ต้องจ่ายค่าปรับให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของยุโรป
IBM รายงานรายได้ที่ US$17.6bn สูงกว่าตลาดคาดที่ US$17.5bn และ adjusted EPS ที่ US$3.92 สูงกว่าตลาดคาดที่ US$3.74
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหว Sideway บริเวณ 1,320-1,350 จุด โดยเรามองว่าตลาดหุ้นไทยจะยังอยู่ในช่วงขาลง หากหุ้นขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อดัชนี SET อย่าง DELTA ยังคงเผชิญแรงกดดันจากกระแสการมาของ DeepSeek-AI ต้นทุนต่ำจากจีน รวมถึงคาดการณ์ผลประกอบการ 4Q24 ที่เราคาดว่าจะชะลอตัวลง yoy จากผลกระทบของอัตราภาษีที่สูงขึ้นและการเติบโตของธุรกิจ non-data centre ที่ค่อนข้างซบเซา
ติดตามนโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์เพิ่มเติม หลังการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา จะส่งผลให้หนึ่งในสินค้าหลักอย่างน้ำมันดิบมีราคาสูงขึ้นในสหรัฐ และอาจทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเพิ่มสูงขึ้นแทน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นในเอเชีย รวมถึงไทย
นอกจากนี้ ไทยอาจเผชิญกับปัญหาสินค้าจีนทะลักเข้ามาในไทย หลังทรัมป์ส่งสัญญาณขึ้นภาษีสินค้านำเข้ารวมถึงจีนด้วย อีกทั้ง สหรัฐยังเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยและไทยมีการเกินดุลกับสหรัฐสูงขึ้น นับเป็นอันดับสองของอาเซียน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกของไทยอาจเผชิญความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรของทรัมป์เช่นกัน
สำหรับปัจจัยในประเทศ ติดตามรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค. ของไทย และ รายงานผลประกอบการ 4Q24 Real Sector เพิ่มเติม (ADVANC THCOM 7 ก.พ.)
• หุ้นแนะนำ
SCB : SCB มีกำไรสุทธิสูงกว่าประมาณการกำไร 4Q24 ของเรา 10.4% เพราะมีอัตราการสำรองหนี้สูญต่ำกว่าคาดที่ 162bp ใน 4Q24 (vs. เราคาดไว้ 180bp) และเราเชื่อว่า SCB จะสามารถคงอัตราการจ่ายเงินปันผลไว้สูงถึง 80% เนื่องจากมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งและท่ามกลางบรรยากาศที่สินเชื่อที่อัตราการขยายตัวช้าในปี 2025-26
(Take profit : 127.5 / Stop loss : 124.5)
WHA : เรายังคงแนะนำเข้าสะสมหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จาก Data Centre โดย WHA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ที่ 2,350 ไร่ ขณะที่เราเล็งเห็น upside risk จากการขายที่ดินล็อตใหญ่ บริษัทยังได้ตั้งเป้าโครงการใหม่ 200k ตรม. แต่จะลดการขายที่ดินให้กับ REIT เหลือ 70k ตรม. ในปี 2025 เรายังแนะนำ “ซื้อ” เพราะธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและกำไรสุทธิน่าจะเติบโตสูงขึ้นในปี 2025
(Take profit : 5.05 / Stop loss : 4.84)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon