CGSI : Trend Spotter

14

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด: ดัชนีหลักทั้ง 3 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแดนลบในวันศุกร์ (31 ม.ค.) หลังนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรหลังปธน. ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าจากแคนาดา-เม็กซิโก 25% และจากจีน 10% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. นี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และ หุ้นที่เกี่ยวข้องอย่าง Constellation ผู้ผลิตเบียร์ และ Corona / Chipotle ร้านอาหารเม็กซิกัน ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังเผชิญแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงานนำโดย Chevron (-4.6%) ที่รายงานผลประกอบการ 4Q24 ออกมาไม่สดใส

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในวันศุกร์ ตัวเลขดัชนี PCE สหรัฐเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.6% yoy แม้จะสอดคล้องกับตลาดคาด แต่การเร่งตัวจากเดือนพ.ย. (+2.4%) สร้างความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง

จับตานโยบายการค้าสหรัฐเพิ่มเติม หลังทรัมป์ระบุว่าจะเตรียมเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าอย่างน้ำมันและก๊าซในวันที่ 18 ก.พ. แต่ยังไม่มีการระบุประเทศเป้าหมายออกมา รวมถึงรายงานผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่อย่าง Alphabet, Amazon, Walt Disney

ล่าสุดดัชนี Futures ทั้ง DJIA และ NASDAQ 100 ร่วงลงกว่า 500 จุด เช้าวันนี้ (3 ก.พ.)เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ อาจจะนำไปสู่สงครามการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทเอกชน

• SET Index : ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวลงแรงจากแรงกดดันของหุ้นขนาดใหญ่ (CPALL, DELTA, GULF) รวมถึงแรงขายทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง

เราคาดว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,300-1,330 จุด โดยมองว่าแนวโน้มหลักยังไม่สดใสทั้งจากแรงกดดันจากปัจจัยภายใน ประเด็นหุ้นเฉพาะตัวที่ยังมีความไม่แน่นอน และ ปัจจัยภายนอก หลังปธน. ทรัมป์ ประกาศให้เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจากจีน 10% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. นี้ ทั้งนี้ทางด้านแคนาดาและเม็กซิโกประกาศว่าจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดสงครามการค้ารอบใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น

สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของไทย (6 ก.พ.) ตลาดคาด +1.3% yoy (vs +1.2% yoy ในเดือน ธ.ค.) รวมถึงผลประกอบการ 4Q24 (ADVANC, TIDLOR, THCOM) ในวันศุกร์นี้ (7 ก.พ.)

ปัจจัยต่างประเทศ ติดตามรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐและข้อมูลเงินเฟ้อยูโรโซน (3 ก.พ.) / ตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่จาก JOLTS (4 ก.พ.) / การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP – PMI ภาคการบริการสหรัฐ (5 ก.พ.) / อัตราการว่างงานและตัวเลขภาคตลาดแรงงานสหรัฐ (7 ก.พ.) รวมถึงผลการประชุม BoE (6 ก.พ.) ที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%

• หุ้นแนะนำ
ADVANC : เก็งกำไรผลประกอบการ 4Q24 ที่คาดว่าจะประกาศในวันศุกร์นี้ (7 ม.ค.) เราและตลาดคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ +25%/+27% yoy ใน 4Q24 โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้บริการที่ยังเติบโตดีและยอดขายเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นช่วงไฮ-ซีซั่นของธุรกิจหลัก
(Take profit : 290 / Stop loss : 275)

BH : เก็งกำไร ราคาเริ่มฟื้นตัว หลังเห็นสัญญาณซื้อสะสมของผู้บริหาร BH ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 80,000 หุ้น เฉลี่ยที่ราคา 176.7 บาท
(Take profit : 186 / Stop loss : 176.50)

Link : https://resmail.cgsi.com/l/763223/2025-02-02/2snyw1z

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon