มิติหุ้น – นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต หมวดสุขภาพและความงาม “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “เทรนด์การดูแลสุขภาพในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเป็นไปในแนวทางของการป้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเกิดโรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิด การมีสุขภาพแข็งแรงจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันเบื้องต้นที่อาจช่วยลดความรุนแรงจากหนักเป็นเบา และด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่การใช้จ่ายผ่านออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ อีกทั้งการเป็นสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ควบคู่กับการคงความงาม (Aesthetic Wellbeing) ทำให้ในปี 2567 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีในหมวดสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 12% คิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท หรือหากเทียบการเติบโตปี 2567 กับช่วงก่อนการเกิดโควิด-19 คือในปี 2561 มีจำนวนสมาชิกใช้จ่ายในหมวดนี้เติบโตถึง 75% ปัจจุบันเคทีซีมีเครือข่ายพันธมิตรกลุ่มโรงพยาบาลกว่า 500 แห่ง และสถาบันความงามกว่า 4,700 แห่ง”
“แม้ว่าการมีสุขภาพดีสามารถเริ่มได้ง่ายๆ ที่ตนเอง ทั้งจากอาหาร การออกกำลังกายและการใช้ชีวิต หากแต่การตรวจสุขภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำทุกปีสำหรับคนทุกเพศวัย การป้องกันและเข้ารับการรักษาแต่เนิ่นๆ อาจช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาสุขภาพได้ นอกจากนี้ เรื่องของความสวยงามดูดีกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมบุคลิกเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ผ่านคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เคทีซีจึงได้เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรด้านสุขภาพและความงามในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วทุกภาค ในปีนี้มีกลยุทธ์การให้บริการรูปแบบออนไลน์เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตอกย้ำจุดยืน “เคทีซีครบทุกเรื่องสุขภาพและความงาม” โดยล่าสุดได้จัดทำชุดบัตรของขวัญ เพื่อมอบส่วนลดรวมสูงสุด 90% ให้กับสมาชิกเคทีซีสามารถนำไปใช้บริการที่โรงพยาบาลพญาไท 1, 2 และ 3 รวมถึงโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินและโรงพยาบาล พญาไทนวมินทร์ / พรเกษมคลินิก / วีสแควร์คลินิกและ HDmall”
เรืออากาศเอกหญิง แพทย์หญิงอัจฉราวดี มหัตนิรันดร์กุล แพทย์ประจำศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า “เทรนด์สุขภาพในปี 2568 จะเน้นที่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของประชากรเป็นปัจจัย โดยมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ส่งผลให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพเป็นไปในลักษณะของการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา ผู้คนไม่อยากแก่และไม่อยากเจ็บป่วยแม้แต่ในกลุ่มผู้ป่วยเองก็เริ่มลดการใช้ยา และหันมาปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น”
“สำหรับเทรนด์สุขภาพในปี 2568 ที่ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันมีดังนี้
1. Personalized Medicine (Precision Medicine) การรักษาที่เน้นความเฉพาะบุคคล
2. Mental Health การดูแลสุขภาพจิตที่ได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้น
3. Gut Health & Microbiome การดูแลลำไส้เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพองค์รวมและไมโครไบโอม (จุลินทรีย์ในลำไส้)
ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสมดุลและส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
4. Sustainable & Ethical Wellness การดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน
5. Longevity & Biohacking การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายเพื่อการมีอายุยืนยาวและสุขภาพดี ผ่านการใช้ข้อมูลการตรวจสอบสุขภาพและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน คือการสร้างสุขภาพที่ดีจากภายในเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรค โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีและข้อมูลทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการปรับวิถีชีวิต เช่น การออกกำลังกายที่เหมาะสม การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการจัดการความเครียด”
นายแพทย์ปกรณ์ กิติรัตน์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ (Chief Medical Officer) พรเกษมคลินิก กล่าวว่า “กระแสการดูแลผิวตั้งแต่อายุน้อยกำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาสิวและดูแลสุขภาพผิว ถือเป็นรากฐานสำคัญของการมีผิวที่แข็งแรงในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจและลดความเสี่ยงปัญหาผิวเรื้อรังในระยะยาว ปัจจุบันพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว จึงใช้บริการที่คลินิกบ่อยครั้งขึ้น เช่น ฉีดสิวทุกสองวัน ชอบหัตถการที่ใช้เวลาสั้นและเห็นผลไว ทั้งยังสอดคล้องกับเทรนด์ “Prejuvenation” ที่เน้นการป้องกันและชะลอวัยผิว เพื่อให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน ซึ่งพรเกษมคลินิก เป็นหนึ่งในคลินิกรักษาสิวที่มากด้วยประสบการณ์ด้านผิวหนังกว่า 40 ปี แพทย์ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวและมีขั้นตอนการรักษาที่ปลอดภัย และเพื่อเฉลิมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 40 พรเกษมคลินิกได้ร่วมกับเคทีซีมอบบัตรกำนัลเงินสดมูลค่า 400 บาท ให้แก่สมาชิก เมื่อใช้บริการตั้งแต่ 2,500 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป”
นางสาวปัญจรัตน์ วัฒนวงศ์วิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อองค์กร วีสแควร์ คลินิก กล่าวว่า “สโลแกนของวีสแควร์ (V square) คือ Feel Your Confidence ทุกคนสามารถดูดีขึ้น มั่นใจขึ้นในแบบของตัวเราเอง เราจะเน้นฟังความต้องการของลูกค้า แล้วใช้ความรู้ความชำนาญของคุณหมอ เทคนิคเฉพาะในแบบ V square เข้ามาช่วยปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การใช้บริการของคลินิกมุ่งเน้นการสร้างความสบายใจให้ลูกค้า และด้วยเทรนด์ออนไลน์ที่กำลังมาแรงเรายังมีการให้บริการแชทปรึกษาเบื้องต้นกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในช่องทางออนไลน์ของคลินิกทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สามารถพูดคุยสอบถามกับคุณหมอได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่กดดันให้ซื้อคอร์สต่างๆ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจและความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการใช้บริการทุกครั้ง นอกจากนี้คลินิกยังให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือที่มีคุณภาพ และได้รับการรับรองจากตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างโปร่งใส ซึ่งสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยและคุณภาพในการรักษา”
“ธุรกิจความงามและสุขภาพยังมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลและผลสำรวจของหลายๆ แห่ง ในปีที่ผ่านมามีธุรกิจการให้บริการที่หลากหลายประเภทมากขึ้น แต่มีความเจาะจงเฉพาะบุคคลมากขึ้นด้วย เช่น ธุรกิจ Wellness Center ที่ให้บริการทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพไปพร้อมกับความสวยความงาม มีการดีไซน์โปรแกรมโดยวิเคราะห์จากไลฟ์สไตล์ การตรวจร่างกายและผลตรวจเลือดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่ต้องการการดูแลที่เหมาะสมกับตัวเองมากยิ่งขึ้น”
นางสาวรายา จันทรมังกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด HDmall กล่าวว่า “HDmall เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการสุขภาพ โดยรวบรวมบริการจากโรงพยาบาลและคลินิกความงามทั่วประเทศกว่า 2,500 แห่ง ทำหน้าที่เหมือน GPS ด้านสุขภาพที่ช่วยนำทางให้ผู้คนเข้าถึงบริการสุขภาพที่ถูกต้องและเหมาะสม เช่น การตรวจสุขภาพ ทันตกรรม ดูแลผิวพรรณและหัตถการความงาม ผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถจองแพ็กเกจและทำนัดหมายได้ทันที HDmall ยังให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าด้วยทีมแอดมินที่คอยตอบคำถามทุกวัน และยังเปิดตัว “จิ๊บ AI ตอบไวเรื่องสุขภาพ” ที่พร้อมให้ให้คำแนะนำและบริการ 24 ชั่วโมง ช่วยให้ลูกค้าเปรียบเทียบราคาและเลือกบริการที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดายโดยจากการศึกษาข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ HDmall 3 อันดับแรก นิยมซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้หญิง ซึ่งไม่เพียงดูแลสุขภาพของตัวเองเท่านั้น แต่ยังซื้อแพ็กเกจเพื่อดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวอีกด้วย”
นางสาวสิรีรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดกิจกรรมการตลาดตลอดปี 2568 นี้ คาดว่าจะช่วยให้การใช้จ่ายในหมวดสุขภาพและความงามเติบโตได้ 15% และจะขยายพันธมิตรร้านค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ร้านค้า”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon