มิติหุ้น – นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม – ธันวาคม 2567) บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ เฝ้าระวังผลกระทบจากปัจจัยลบที่มีความผันผวนสูงทั้งในและต่างประเทศ มีการปรับแผนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ “กอด – Secure Core, Embrace Future” รักษาฐานลูกค้าเดิม และเดินหน้าขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยการขับเคลื่อนใน 3 มิติ คือ Flexible ปรับตัวให้ยืดหยุ่นตามดีมานด์ของตลาด, Feeling สร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับ และ Focus มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการที่เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตมั่นคง
ไตรมาส 1 ปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม – ธันวาคม 2567) เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยทำรายได้รวม 3,268 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2,003 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าและบริการ 796 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 469 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 329 ล้านบาท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ประสบความสำเร็จจากแคมเปญการตลาด “บ้านเฟรเซอร์ส คิดมาครบ” ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค พร้อมด้วยการระบายสต๊อกในบางโครงการ ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้ารุกกลุ่มลูกค้าต่างชาติด้วยการจัดโรดโชว์ที่ประเทศจีน โฟกัสลูกค้าที่สนใจโครงการคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะ ปีนี้บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และขอนแก่น รวมทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ากว่า 9,800 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่คือ Gramour และ Goldina เป็นสินค้าสไตล์โมเดิร์นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม มีอัตราการเช่าเฉลี่ยทั้งในและต่างประเทศสูงถึง 89% เป็นอัตราการเช่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ปัจจัยสนับสนุนมาจากผลกระทบต่อเนื่องของยุทธศาสตร์ China Plus One และแรงเสริมจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลบวกต่อธุรกิจของบริษัทที่มีทั้งในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนามจากดีมานด์พื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทได้เปิดตัว 2 โครการใหม่ ได้แก่ โครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลาสต์ ไมล์ ฮับ (Frasers Property Last Mile Hub) ในโซนอุตสาหกรรมปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และอาคารศูนย์กระจายสินค้าในเขตปลอดอากร (Free Zone Warehouse) ของโครงการบางนา 2 โลจิสติกส์ พาร์ค
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม อาคารสำนักงานเกรดเอและพื้นที่รีเทลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าจากการต่อสัญญาใหม่ บริษัทสามารถรักษาระดับอัตราการเช่าอยู่ที่ 92% ด้านธุรกิจโรงแรมมีรายได้ลดลงจากการยุติการดำเนินงานโรงแรมเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ตเมนต์ โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ระดับซูเปอร์ลักชัวรี หากไม่มีผลกระทบดังกล่าว รายได้ธุรกิจโรงแรมจะปรับตัวดีขึ้นประมาณ 17.7% จากการเติบโตของอัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย ซึ่งได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน ไตรมาส 1 (ตุลาคม – ธันวาคม 2567)
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน
รอบระยะเวลา 3 เดือน |
2568 (ล้านบาท) |
2567 (ล้านบาท) |
เปลี่ยนแปลง (ล้านบาท) |
เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) Y-o-Y |
รายได้รวมสุทธิ | 3,268 | 3,066 | 202 | 6.6 |
– รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ | 2,003 | 1,731 | 272 | 15.7 |
– รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ | 796 | 734 | 62 | 8.4 |
– รายได้อื่น ๆ | 469 | 601 | -132 | -22.0 |
กำไรสุทธิ | 329 | 322 | 7 | 2.2 |
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon