มิติหุ้น – ในยุคที่เร่งเร้าให้ทุกอย่างต้องไว ต้องดี ต้องเป็นที่จดจำ โลกตอนนี้จึงท่วมท้นไปด้วยภาพคนประสบความสำเร็จไม่ขาดสาย จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้ง่าย หลายคนอาจเกิดคำถามในใจว่า “ทำไมเราถึงไม่เคยดีพอ”
พลุจัง – นลัทพร นันตา ศิลปิน Gen Z เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี เพราะเธอเคยจมอยู่กับความเศร้า ความกดดัน และความไม่พอใจในตัวเอง จากจุดนี้เธอจึงเลือกใช้ศิลปะเป็นบันทึกของการเติบโตทางจิตใจ ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองจากวันที่รู้สึกไม่มีความสุข ไปสู่วันที่สามารถยอมรับและเข้าใจตัวเอง ผ่านนิทรรศการ ‘Into the Mind Garden’ ที่ครั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมกับ Madskills แกลเลอรี่สตาร์ทอัพสัญชาติไทย สนับสนุนให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้ถ่ายทอดผลงานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
เมื่อก้าวเข้ามาในห้องสตูดิโอของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ ทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เหมือนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้แสนสงบ เพราะเวลานี้ พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ แต่เป็นพื้นที่ที่ศิลปินอยากให้ทุกคนได้หยุดพัก และทบทวนจิตใจของตัวเอง
จากความรู้สึกดาวน์ สู่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นิทรรศการ
จุดเริ่มต้นของคอนเซปต์นิทรรศการที่ดูสวยงามสบายตา กลับเกิดขึ้นจากช่วงเวลาที่พลุจังตกอยู่ในห้วงความรู้สึกดาวน์ ไม่มีความสุขและไม่พอใจในชีวิตที่สะสมมาตั้งแต่ในช่วงโควิด-19 และเธอเริ่มจมลึกกับความรู้สึกเช่นนี้อีกครั้งในช่วงการเตรียมผลงานในนิทรรศการ จากกการกดดันให้ตัวเองสร้างสรรค์ผลงานให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่เคยรู้สึกดีพอ
“เวลานั้นคือเครียดและกดดันมาก จมอยู่กับความเศร้าทุกวันจากการซ้ำเติมตัวเองว่า ‘ทำไมเราทำได้ไม่ดีเหมือนคนอื่น’ คำถามเหล่านี้เกิดซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด” พลุจังเล่าความรู้สึกที่จัดการไม่ได้และหาทางออกไม่เจอ
จนวันหนึ่งที่เธอเดินออกจากห้องทำงาน และนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านท่ามกลางต้นไม้โอบล้อม เธอพบกับความสงบรอบตัวที่รู้สึกเข้าไปถึงในจิตใจ เธอเล่าว่า “เมื่อทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบ ใจก็สงบลงด้วย ทำให้ได้รู้สึกถึงสายลมพัดเย็น เสียงของนกร้อง แสงแดดอุ่น สิ่งเหล่านี้ที่เคยเป็นความสุขของเรา กลับเข้ามาในความรู้สึกอีกครั้ง”
โมเมนต์นี้เองที่พลุจังตระหนักได้ว่า ความเศร้าที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากโลกภายนอก แต่เป็นตัวเองที่จมกับความรู้สึกนั้น โดยไม่หาทางออก และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอสร้างสรรค์ผลงานในคอนเซปต์ Into the Mind Garden ที่อยากชวนให้ทุกคนได้เข้ามานั่งพักใจใน “สวน” ของตัวเอง เพื่อค้นพบความสงบในใจ และความสุขเล็กๆ ที่อาจเคยมองข้ามไป
เล่าเรื่องผ่านคาแรกเตอร์เด็กผู้หญิงที่ผ่านความเศร้าสู่ความสดใส
นิทรรศการนี้เล่าเรื่องราวผ่านคาแรกเตอร์ “ริหลิน” เด็กผู้หญิงที่เป็นตัวแทนของศิลปินเอง กำลังเดินทางผ่านอารมณ์ต่างๆ ตั้งแต่ความเศร้า ความสับสน ไปจนถึงการยอมรับและเข้าใจตัวเอง และกลับมาเริ่มต้นมีความสุขได้อีกครั้ง ด้วยกำลังใจของตัวเองและคนรอบข้าง
“อยากให้ ‘ริหลิน’ เป็นตัวแทนของการเริ่มต้นใหม่ จากรูปแรกที่ริหลินมีผมสีน้ำเงินเข้มสะท้อนถึงช่วงเวลาที่มืดมน แต่เมื่อเริ่มเข้าใจตัวเอง กลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ในภาพเหล่านั้นริหลินก็จะเริ่มมีผมสีฟ้า แต่ถ้าสังเกตให้ดีคือ ปลายผมสีน้ำเงินก็ยังคงอยู่ เพราะอยากสะท้อนให้เห็นว่า คนที่เคยเศร้าก็กลับมามีความสุขได้” พลุจังอธิบาย
ศิลปะสะท้อนความรู้สึกของ Gen Z และความพยายาม “เยียวยา” ตัวเอง
หลังจากที่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะออกมา พลุจังมองว่าสิ่งที่เธอทำไม่ใช่แค่การถ่ายทอดความรู้สึกส่วนตัว แต่เป็นเสียงสะท้อนของ Gen Z ที่มีเติบโตมาด้วยความรู้สึกที่มีร่วมกัน
“เราไม่ได้ตั้งใจให้งานนี้เป็นกระจกสะท้อนสังคมขนาดนั้น แต่พอมองย้อนกลับไป ก็สะท้อนเรื่องราวและความรู้สึกของ Gen Z ได้ชัดเจน เราเป็นรุ่นที่เติบมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงโควิด-19 อยู่ในยุคที่ทุกอย่างเปรียบเทียบกันง่ายมากผ่านโซเชียลมีเดีย จึงเหมือนเผชิญกับความกดดันรอบด้านมาตลอด”
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เธออยากจะบอกกับทุกคนไม่ว่าอยู่ในวัยไหนที่กำลังรู้สึกเหมือนเธอคือ “อยากให้ใจดีกับตัวเอง เพราะเรามักโทษตัวเองง่าย ทำร้ายจิตใจตัวเองมากเกินไป“
ท้ายที่สุด พลุจังบอกว่า เธอยังคงมีวันที่รู้สึกดีและรู้สึกดาวน์สลับกันไป แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือเธอหาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ ในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น เพราะแค่ได้ตื่นมามองแสงแดดตอนเช้า ได้นั่งฟังเสียงนกร้องในสวน หรือฟังเพลงโปรด ก็คือความสุขที่มีอยู่จริงแล้ว
“เราต่างพยายามค้นหาความสุข อยากมีอยากได้ในสิ่งที่ไกลตัว จนลืมไปว่าความสุขมากมายอยู่รอบตัวมาตลอด” พลุจังทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon