มิติหุ้น – ในยุคที่ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนกลุ่มรากหญ้าถูกจำกัด เมื่ออัตราหนี้ครัวเรือนมีระดับสูงถึง 90-95% ของรายได้ ทำให้สถาบันการเงินปกติ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เงินในระบบให้กับกลุ่มฐานราก หรือ กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ ที่ลงทะเบียนคนจนราว 14 ล้านคน เมื่อรัฐอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 2 รอบที่ผ่านมา จึงเห็นการใช้จ่ายเงินอย่างคึกคักทันที
นี่จึงเป็นโอกาสเติบโตในกลุ่มการบริการสินเชื่อ โดยไม่ต้องมีเงินค้ำประกัน ให้กับ.. ในยุคที่ธุรกิจ”ตู้เติมเงิน” ที่มีอยู่ 1.1 แสนตู้ทั่วประเทศ ยังปักธงในตลาด ยุคที่คนไทยใช้จ่ายผ่านมือถือ เติมเงินผ่านมือถือ ตู้เติมเงินจะเป็นธุรกิจที่ไม่จะไม่ขยายไปกว่านี้จึงเหลือแค่เก็บเกี่ยวกำไรจากการลงทุนตู้ยาวไป 10 ปี จึงต่อยอดธุรกิจดูแลรากหญ้าจากการบริการสินเชื่อ
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เปิดเผยว่า อัตราหนี้ครัวเรือนถือเป็นปัญหาสำคัญของกลุ่มคนฐานรากที่มีความต้องการเงิน แต่สถาบันการเงินและธนาคารมีความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ มีข้อจำกัดไม่ปล่อยกู้ให้กลุ่มที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึง มีการเช็กประวัติเครดิตบูโร เมื่อความต้องการ และช่องว่างทางกาารตลาดยังเป็นโอกาส จึงเปิดธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ภายใต้ “บุญเติมเงินพร้อมใช้” ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อผ่อนสินค้า และผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นๆ ในกลุุ่มผู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
แนวทางการปล่อยกู้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มตลาดที่มีความหลากหลายและไม่สามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินใหญ่ได้ ทำหน้าที่เป็น กลุ่มสินเชื่อที่มีความเสี่ยง (
CDM -Credit Default Swap) มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ หรือ ไม่ชำระหนี้ ที่เป็นการบริการที่ต้องแบกรับความเสี่ยง ตัวแทนธนาคาร 8 แห่ง จะเพิ่มอีก1 แห่งในปีนี้
โดยหลักการทำธุรกิจที่ให้เติบโต จะต้องมีหลักการพิจารณาเลือกผู้กู้ที่เหมาะสม และมีระบบคัดกรองที่ดี โดยการคิดอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าแบงก์ทั่วไปเล็กน้อย ราว 20 % ต่อปี จึงมีโอกาสในการสร้างรายได้และเพิ่มฐานลูกค้าจากกลุ่มเติมที่จำกัดเฉพาะกลุ่มเติมเงิน
โดยในปีที่ผ่านมา เปิดตัวการบริการโดยการเข้าเจาะฐานกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้เข้ามาใช้บริการ มีการปล่อยกู้ไปแล้วมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท จึงวางแผนเพิ่มลูกค้าองค์กรเดิมเป็น 200,000 ราย เป้าหมาย 1.2 กลุ่ม จากปัจจุบัน 100,000 ราย คาดว่าโดยรวมจะมีฐานลูกค้าสมาชิก 500,000 ราย มีโอกาสเพิ่มพอร์ตสินเชื่อเป็น 1,800-2,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 80% จากปีก่อน
กู้วิกฤตชุบชุบชีวิตฐานราก ตัดตอนหนี้นอกระบบ
“กลุ่มคนฐานรากต้องการเงินเยอะ หนี้นอกระบบเยอะ คนรากหญ้าต้องการเงิน และคู่แข่งก็ติดที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนจึงมีการคัดกรองระมัดระวังการปล่อยกู้ โดยการหาหาวิธีให้คนรากหญ้าเข้าถึงสินเชื่อ มีการวางระบบคัดกรอง แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า จึงมีโอกาสขยายฐานลูกค้าและเติบโตในธุรกิจ”
หลังจากดำเนินการมาตลอดปีที่ผ่านมา จึงมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการวิเคราะห์กลุ่มที่สามารถปล่อยกู้ได้ และมีความเข้าใจพฤติกรรมลูกหนี้ ทำให้สร้างระบบติดตามทวงหนี้ ที่เหมาะสม เพื่อรักษาอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ให้ต่ำกว่า 3% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 4%
ผู้บริหารเล่าว่า จุดยืนของการบริการสินเชื่อ เป็นการทำหน้าที่”ธนาคารให้กับชุมชน” เป็นที่พึ่ง ให้กับกลุ่มคนฐานรากที่ต้องการเงิน ถือเป็นการช่วยลดอัตราหนี้นอกระบบ
บริษัทยังพร้อมขยายบริการรับฝาก-โอนเงินระหว่างประเทศ และการโอนเงินแบบรับทันทีเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งาน ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวในการทำธุรกรรมทางการเงินมากยิ่งขึ้น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon