THREL กางแผนปี 68 ก้าวสู่ Road to Quality ปั้นพอร์ตคุณภาพอัพการเติบโต เปิดผลงานปี 67 เบี้ยรับโตทะลุ 4.5 พันลบ.

15

มิติหุ้น  –  นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจประกันชีวิตได้พิจารณาปรับเบี้ยประกันสุขภาพกลุ่มขึ้นเฉลี่ย 30% พร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายการขาย รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มโอกาสช่องทางการขายใหม่ๆ นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาบริการ และปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อให้ครอบคลุมและสอดรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันในทุกกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้แนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตปี 2568 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าก้าวสู่ “Road to Quality” ปั้นพอร์ตคุณภาพ ขับเคลื่อนการเติบโตแข็งแกร่ง ผลักดันอัตราค่าใช้จ่ายรวม (Combined ratio) กลับมายืนอยู่ที่ระดับ 100%

นับเป็นอีกขั้นในการต่อยอดกลยุทธ์ “ซ่อม-สร้าง” ที่ได้เร่งปรับพอร์ตให้เกิดความสมดุลในการรับประกันทุกประเภท ทั้งประกันสุขภาพรายบุคคล และประกันกลุ่ม เป็นต้น พร้อมปรับเงื่อนไขการรับประกันภัยต่อ ให้สอดคล้องอัตราสินไหมทดแทนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงพิจารณายกเลิกสัญญาที่ไม่ทำกำไรในระยะยาว ภายใต้การคุมเข้มกระบวนการพิจารณารับประกันภัย และบริหารความเสี่ยง ด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อควบคุมคุณภาพผลการรับประกันภัยให้อยู่ในระดับความเสี่ยงที่รับได้

นายวิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยต่อรับเพิ่มขึ้น 32% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 4,559 ล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิ 4,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% ตามการเติบโตของตลาดประกันสุขภาพรายบุคคลและประกันกลุ่มเป็นสำคัญ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมเพิ่มขึ้นราว 41% อยู่ที่ 4,502 ล้านบาท จากค่าสินไหมทดแทนที่เพิ่มขึ้น 1,244 ล้านบาท ตามการเติบโตของเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้น และจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่ารักษาพยาบาล (medical cost inflation) ของผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ที่มีการปรับขึ้นตามภาวะอุตสาหกรรม ซึ่งสูงเกินกว่าอัตราค่าเบี้ยประกันที่ได้ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าบำเหน็จที่เพิ่มขึ้น 141 ล้านบาท ตามการเติบโตของเบี้ยประกัน ในไตรมาส 4 บริษัทสามารถมีผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้น แต่เนื่องด้วยมี Major Claim เกิดขึ้น 2 ราย จากการประกัน Credit Life ซึ่งกระทบกับสินไหมที่บริษัทรับประกันต่อมูลค่า 50 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2567 บริษัทมีผลขาดทุนอยู่ราว 85 ล้านบาท และ Combined Ratio ขยับมาอยู่ที่ระดับ 104.1%

“Medical Inflation ที่สูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยท้าทาย ต่อการบริหารคุณภาพการเคลมสินไหมประกันสุขภาพ แต่จากกลยุทธ์ที่บริษัทได้เร่งดำเนินการ ทั้งปรับพอร์ตให้มีความสมดุลในทุกประเภท การปรับเงื่อนไขรับประกัน ตลอดจนยกเลิกสัญญาที่ไม่ทำกำไร ซึ่งอาจส่งผลต่อการชะลอการเติบโต แต่จะเป็นกลยุทธ์ที่จะรักษาความเสี่ยงของความผันผวนจากการเคลม เพื่อให้บริษัทกลับมามีผลประกอบการอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายวิพล กล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon