มิติหุ้น – ACE เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดประจำปี 2567 รายได้รวม 6,451 ล้านบาท กำไรสุทธิ 839 ล้านบาท ปีนี้เตรียมรับรู้รายได้เต็มปีจาก 6 โรงไฟฟ้าใหม่ที่เปิด COD เมื่อปีที่ผ่านมา และเตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากโรงไฟฟ้าใหม่ที่จ่อรอคิว COD อีกหลายโครงการ
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 ของ ACE ว่า สามารถทำรายได้จากการขายและบริการรวม 6,451 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2566 ที่ทำได้ 6,583 ล้านบาท กำไรสุทธิ 839 ล้านบาท ลดลง 21.8% จากปี 2566 ที่ทำได้ 1,073 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากกำไรขั้นต้นของโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ลดลง เนื่องจากในไตรมาส 4 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนแห่งหนึ่งที่สิ้นสุดช่วงระยะเวลาการได้รับ Adder ตามเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า รวมทั้งต้นทุนทางการเงิน ปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2566 อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง (MLR) ของธนาคารพาณิชย์ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 ถึงไตรมาส 4 ปี 2567 และการเพิ่มขึ้นของเงินกู้เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนในโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและการก่อสร้าง
“ปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ ACE กลับสู่วงจรการเติบโตรอบใหม่ และมีข่าวดีต่อเนื่องตลอดปี ทั้งจากการที่โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่บริษัทฯ ชนะการประมูลและมีการลงทุนก่อนหน้า เริ่มทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จจนสามารถเปิด COD ได้แก่ โรงไฟฟ้า SPP Hybrid คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร กำลังการผลิตติดตั้งรวม 20 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 71.19 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รวมถึงการได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพิ่มเติมจากโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ในกลุ่มที่มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (SCOD) ช่วงปี พ.ศ.2570 จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 40.22 เมกะวัตต์ อีกด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACE กล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจ ACE คาดว่าในปี 2568 นี้จะสามารถ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มได้อีก 10 โครงการ ซึ่งเมื่อรวมกับที่เพิ่ง COD ไปเมื่อปลายปี 2567 จำนวน 5 โครงการ รวมเป็น 15 โครงการ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เหลืออีก 3 โครงการ คาดว่าจะ COD ได้ตามแผน คือ ภายในปี 2570 นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอีกหลายโครงการที่คาดว่าจะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิด COD ได้เพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเชียงหวาง จ.อุดรธานี และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนโชคชัย จ.นครราชสีมา กำลังการผลิตติดตั้งรวม 18.9 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP จำนวน 9 โครงการ ที่ได้ PPA คืนมาจาก กฟภ. กำลังการผลิตติดตั้งรวม 89.1 เมกะวัตต์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมยังได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยมีจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 3.93 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีกำหนดซื้อหุ้นคืนด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 5 กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
อนึ่ง ACE ยังคงตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2593 ซึ่งสอดรับตามกลยุทธ์ธุรกิจในการตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” ที่ยึดมั่นมาตลอด อันจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon