CGSI : HANA ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบส่วนใหญ่แล้ว ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

52

มิติหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น HANA มาเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” รวมทั้งปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22.5 บาท จากเดิม 20.90 บาท ซึ่งยังเท่ากับ P/E 11.5 เท่าในปี 69, -1.5SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี เนื่องจากความเสี่ยงและผลตอบแทนน่าสนใจมากขึ้น หลังราคาหุ้นปรับตัวลง 35% YTD

แม้ว่าธุรกิจหลักของ HANA ยังมีแนวโน้มเผชิญกับความท้าทายในครึ่งแรกปี 68 นี้ จากการทยอยดูดซับสต็อกในอุตสาหกรรมอนาล็อกและความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่เล็งเห็นปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้น (กรอบเวลา 3-6 เดือน) ในรูปของอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจหลัก รวมถึงผลขาดทุนที่ลดลงจาก Powermaster (ประกอบธุรกิจซิลิคอน/ซิลิคอนคาร์ไบด์ frontend) ในครึ่งหลังปี 68

ขณะที่ ราคาหุ้น HANA ในปัจจุบัน ซื้อขายที่จุดต่ำสุดของการประเมินมูลค่าตั้งแต่ปี 43 ที่ P/BV 0.53 เท่าในปี 67นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 1.02 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/67 ซึ่งคิดเป็น 72% ของ market cap ในขณะนี้ จึงเชื่อว่าการประเมินมูลค่าในปัจจุบันมีความเสี่ยงและผลตอบแทนน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม HANA จะมี downside risk หาก Powermaster ขาดทุนสูงกว่าคาดและยอดขายลดลง เพราะผลพวงจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าโลก

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า จากการเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ของ HANA เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 68 ซึ่งถึงแม้ว่าผู้บริหารยังไม่เปิดเผยตัวเลขบางประการ แต่ HANA คาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจหลักในไตรมาส 1/68 จะลดลงเล็กน้อย qoq ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยฤดูกาลและประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯที่คาดว่ารายได้จะลดลงราว 5% qoq

นอกจากนี้ มุมมองของผู้บริหารยังตรงกับความคิดเห็นของฝ่ายวิเคราะห์ฯว่า อุตสาหกรรมอนาล็อกโดยรวมน่าจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2/68 จากฐานที่ต่ำ แต่กว่ายอดขายจะกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อาจต้องรอไปจนถึงครึ่งหลังปี 68 โดยมีปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ในการเติมสต็อก ดังนั้นจึงประมาณการว่า HANA จะมีรายได้จากการขายลดลง 3.6% yoy เป็น 2.39 หมื่นล้านบาทในปี 68 เพราะการฟื้นตัวของอุปสงค์ในครึ่งแรกปี 68 ยังอ่อนตัว

โดยธุรกิจหลักน่าจะมียอดขาย 2.33 หมื่นล้าน บาท ลดลง 4.1% yoy และ Powermaster มียอดขาย 612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% yoy ขณะเดียวกัน คาดว่า GPM ของธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 2.4% ใน 67 เป็น 7% ในปี 68  เพราะไม่มีผลกระทบจากการวัดมูลค่าสินค้าคงคลังตามความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งเชื่อว่า GPM จะเพิ่มขึ้นจากความพยายามลดต้นทุนของบริษัท เช่น การเปิดโรงงาน 5 วันต่อสัปดาห์ จากจำนวนพนักงานที่ลดลง

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ประมาณการว่า Powermaster น่าจะมีขาดทุน 1.25 พันล้านบาทในปี 67 เพราะใช้กำลังการผลิตไม่เต็มที่ นอกจากนี้ ราคา wafer ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 67 ส่งผลให้บริษัทปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ 216 ล้านบาทในไตรมาส 4/67 อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเชื่อว่า Powermaster จะมีขาดทุนลดลงช่วงกลางปี 68 หลัง บริษัทตัดสินใจยุติการผลิตซิลิคอน เพราะเสียเปรียบด้านต้นทุน ส่วน HANA จะหันไปพึ่ง Foundry ของ ผู้ประกอบการอื่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ซิลิคอน ซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพด้านต้นทุนของบริษัทดีขึ้น

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารจะพยายามทำการตลาดมากขึ้น เพื่อคว้าแบบการผลิตอุปกรณ์ซิลิคอนคาร์ไบด์ ประกอบกับเชื่อว่าจะไม่มีการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือมากนัก หลังราคา wafer ทรงตัวในครึ่งปีแรก จึงคาดว่าต้นทุนที่ลดลงหลังถอนตัวจากธุรกิจผลิตอุปกรณ์ซิลิคอน จะทำให้ Powermaster มีขาดทุนลดลงเหลือ 1.03 พันล้านบาทและ 645 ล้านบาทในปี 68 และ 69 ตามลำดับ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon