มิติหุ้น – “บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ หรือ ASIMAR” โชว์ศักยภาพแข็งแกร่ง ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 50.88 ลบ. โต 190% จากปีก่อน กวาดรายได้รวมอยู่ที่ 1,054.78 ลบ. เพิ่มขึ้น 481.17 ลบ. โต 83.88% โดยรายได้จากงานต่อเรือ 503.09 ลบ. เพิ่มขึ้น 482.33 ลบ. พุ่งทะยานมากถึง 2,323.36% จากการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ เป็นการรับรู้สะสมร้อยละ 61.08 ของทั้งโครงการ ด้านบอร์ดชงจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตรา 0.12 บ./หุ้น ขึ้น XD วันที่ 14 มี.ค.68 จ่ายปันผลวันที่ 2 พ.ค.นี้ “สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์” ซีอีโอ กางแผนปี 2568 ปีทองของ ASIMAR เผยปีหน้ามี Backlog ค้างอยู่ที่ราว 330 ลบ. แถมมีโอกาสได้งานโครงการใหญ่ที่มีศักยภาพสูง เข้ามาเสริมแกร่งรายได้และกำไรให้กับบริษัท
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่าผลประกอบการประจำปี 2567 มีกำไรสุทธิ 50.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.30 ล้านบาท หรือ 189.42% เมื่อเทียบกับปี 2566 มีรายได้รวม 1,054.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 481.17 ล้านบาท หรือ 83.88% เป็นรายได้ที่มาจากงานซ่อมเรือ 482.54 ล้านบาท ลดลง 11.16 ล้านบาท หรือ 2.26% เนื่องจากในไตรมาส 4/2567 สาขาสมุทรปราการมีการปรับปรุงพื้นที่โดยขุดลอกบริเวณหน้าท่าเทียบเรือ เพื่อให้มีระดับความลึกที่ต้องการตามขนาดเรือที่เข้าใช้บริการ จึงส่งผลต่อปริมาณงานซ่อมเรือในไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผลงานการดำเนินงานในปี 2567 งานซ่อมเรือยังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งผลการดำเนินงานหลักมาจากธุรกิจเดินเรือขนส่งน้ำมัน (Oil Tanker) และธุรกิจเรือโดยสาร (Ferry & Passenger) สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยมีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผนวกกับปริมาณการค้าโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือเติบโตขึ้นไปด้วย ส่วนสาขาสุราษฎร์ธานีในปี 2567 มีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับงานซ่อมทำเรือยอร์ชซึ่งมีมูลค่าค่อนสูง
ขณะที่งานต่อเรือมีการรับรู้รายได้ 503.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 482.33 ล้านบาท หรือเพิ่มมากถึง 2,323.36 % เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ โดยเป็นการรับรู้สะสมร้อยละ 61.08 ของทั้งโครงการ และโครงการต่อเรืออเนกประสงค์ต้นแบบเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขนาดกลาง (ทำจากวัสดุ HDPE) ของกองทัพเรือ เป็นการรับรู้สะสมร้อยละ 21.15 ของทั้งโครงการ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับปี 2566
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตรา 0.12 บาท/หุ้น โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 เมษายน 2568 นี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิประชุมผู้ถือหุ้นและได้รับปันผล (Record date) วันที่ 17 มีนาคม 2568 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล 14 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 2 พฤษภาคม 2568
สำหรับแผนในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% โดยมีแผนเข้าประมูลงานต่อเรือโครงการใหม่ๆในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 โดยมีโครงการที่คาดว่าจะได้ประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะมีงานประมูลเพิ่มเติมคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 อีก 300-400 ล้านบาท นับเป็นโครงการที่มีศักยภาพที่ ASIMAR คาดว่าจะได้งานเพิ่มเข้ามาเสริมแกร่งรายได้ให้กับบริษัท
ในปี 2567 บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกลุ่ม ซึ่งบริษัทฯได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน กับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการพัฒนาบริษัทฯด้านความยั่งยืน หาประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ แล้วนำแต่ละประเด็นมากำหนดเป็นเป้าหมายและกลยุทธ์ของบริษัทฯต่อไป
รวมทั้งบริษัทฯให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่ต้องไม่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากในปัจจุบันการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางบริษัทฯจึงได้มีการจัดทำข้อมูลและดำเนินกิจกรรมต่างๆภายในบริษัทฯเพื่อทำการขอการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization) ISO 14064-1 โดยผ่านการทวนสอบจากผู้ทวนสอบ และได้รับใบรับรองมาตรฐาน ISO 14064-1 เรียบร้อยแล้ว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon