DITTO รับบวกCarbon Credit จ่อประมูลงานปีนี้ 7 พันล.

106

มิติหุ้น-DITTO โดยบล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า DITTO มีรายได้หลัก 2 ทาง คือ บริการทางด้านระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร สัดส่วน 29% และ Innovation Technology Engineering Project มีสัดส่วน 51% (งานระหว่างทำ เช่น สวนสัตว์แห่งใหม่ เฟสแรก 5.3 พัน ลบ. และ พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า 2 พัน ลบ. โดย DITTO ถือหุ้น 25-30% ใน consultum แต่ละงาน) ขณะที่ธุรกิจ Printer ไม่ได้เน้นแล้ว รายได้เหลือเพียง 9%

            ผลการดำเนินงานปี 2024 น่าพอใจ : กำไรสุทธิ 458 ลบ. +36.7% y-y สอดคล้องกับรายได้ 2.4 พัน ลบ. +33.9% y-y อัตรากำไรขั้นต้น 27.1% ลดลงจาก 29.8% ปีก่อน จากสัดส่วนงานโครงการ Innovation Tech Engr. มีสัดส่วนเพิ่มสูงถึง 49.4% ทำให้ดึงอัตรากำไรลงมาในช่วงก่อสร้าง อย่างไรก็ดีเราคาดว่างานบำรุงรักษา(MA)เมื่องานเสร็จ ซึ่งมีมูลค่าราว 20% ของมูลค่างานจะมาดึงอัตรากำไรขึ้นในระยะถัดไป

งานในมือ และความคืบหน้า : ณ 31 ธ.ค. 2024 มีทั้งสิ้น 4.1 พัน ลบ. เป็นงานโครงการ 2.3 พัน ลบ. และ งานจัดการเอกสารฯ 1.8 พัน ลบ. คาดรับรู้รายได้ปีนี้ 3 พัน ลบ. โดย ผบห.คาดจะได้งานอีก 1 พัน ลบ.ในกลางปีนี้ โดย 1-2 ปีนี้จะมีประมูลงานอีกราว 7 พัน ลบ. เพียงพอสำหรับการทำธุรกิจ โดยในนั้น 4 พัน ลบ. จะเป็นงานสวนสัตว์แห่งใหม่เฟส 2 คาดประมูลปลายปีนี้ โดยเฟส 1 ผบห.เผยคืบหน้าไปแล้ว 46% ทว่ามีการปรับแบบทำให้ผู้ว่าจ้างขยายเวลาไปเสร็จในปี 2026

ธุรกิจใหม่ Carbon credit : DITTO อยู่ระหว่างพัฒนาป่าชายเลน 1.7 แสนไร่ ซึ่งเป็นป่าที่ผลิต Blue Carbon ได้ ซึ่งเป็นป่าที่ดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงกว่าป่าทั่วไป 3-10 เท่าตัว ซึ่งโครงการของ DITTO คาดดูดซับได้ 9.4 tCO,e / ไร่/ ปี โดยในพื้นที่นี้เป็นการปลูกใหม่ 2 หมื่นไร่ ที่เหลือเป็นการให้งบแก่เกษตรกรในพื้นที่ในการพัฒนาบำรุงดูแลรักษา แล้วแบ่งผลประโยชน์ 20% ในอนาคต

 

ตลาด Carbon Credit ในไทย : จากการสอบถาม ผบห. สรุปประเด็นที่น่าสนใจได้ดังนี้

ปัจจุบันในไทยยังเป็นภาค “สมัครใจ” ทำให้ราคา Carbon Credit ไม่สูงเพียง 200-300 บาท/ ตัน เทียบกับในสิงคโปร์ SGD25/ ตัน (ราว 634 บาท/ ตัน) ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ผลักดันไปสู่ภาคบังคับคือ การออกกฏหมาย Carbon tax ซึ่งสิงคโปร์ได้เริ่มใช้ไปแล้วในปี 2019 (เครื่องมืออื่นๆ เช่น การหักกลบ Carbon Credit, กำหนดโควต้าการปล่อยคาร์บอนฯ เป็นต้น)

ประเทศไทยอยู่ระหว่างร่างกฏหมายสำหรับภาคบังคับ คาดกระบวนการอนุมัติจะเกิดขึ้นในปีนี้ แล้วเริ่มบังคับใช้ในปี 2026 ซึ่ง ผบห. เชื่อว่าตลาดการซื้อขายที่เกิดจาก “ภาคบังคับ” จะเกิดในปี 2027 พร้อมกับการเก็บเกี่ยวผลผลิตของ DITTO

ปัจจุบันไทยปล่อยก๊าซเรือกระจกจากทุกภาคส่วนรวมกันราวๆ 385 ล้านตัน/ ปี (เกษตรกรรม-อุตสาหกรรม-บำบัดของเสีย) ซึ่งผลผลิตที่ DITTO ทำได้จาก 1.7 แสนไร่ จะอยู่ที่ราว 1 ล้านตัน/ ปี จะเห็นว่าอุปสงค์นั้นมากกว่าอุปทานอย่างมาก และในปัจจุบัน DITTO ผู้เล่นรายเดียวที่มุ่งพัฒนาในเชิงพาณิชย์

 

เรามีมุมมอง บวก กับทิศทาง DITTO ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า โดยระหว่างรอพัฒนาการด้านกฏหมาย “ภาคบังคับ” และ การเติบโตของป่าชายเลน(ปัจจุบันโตสูง 1.5 เมตรแล้ว) ซึ่ง ผบห.ตั้งเป้าจะเก็บเกี่ยว Carbon Credit เพื่อสร้างรายได้ในปี 2027 คาดผลกำไรรายปีจะยืนได้ 400+ ลบ./ ปี จาก Backlog ที่หนาแน่น พร้อม Dividend yield ที่ 2.4% ต่อปี ซึ่งมองว่าอยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับนักลงทุนที่รอได้  ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ Trailing P/E ที่ 15.9x เรามองว่าอยู่ในระดับสมเหตุสมผลสำหรับการพิจารณาศึกษาลงทุน จากที่เคยขึ้นไปถึง 81-119 เท่าในปี 2021-22 ”

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon