มิติหุ้น – บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของ การทำรายการซื้อหุ้นของ นายณัฐพล ขจรวุฒิเดช ในฐานะกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำรายการซื้อหุ้นบิ๊กล็อตจำนวน 10 ล้านหุ้น จาก UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED (ผู้ดูแลทรัพย์สินให้กับ Capital Asia Investments Pte. Ltd. บริษัทจัดการกองทุน) ในราคา 1.00 บาทต่อหุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตได้ต่อเนื่อง เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น หลังราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ฟาก “สุวรรณา ขจรวุฒิเดช” มั่นใจภาพรวมผลการดำเนินปี 68 ยังสดใสและเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% ออลไทม์ไฮ รับอานิสงส์ธุรกิจโลจิสติกส์ทุกประเภทขยายตัว และภาคอุปโภคและบริโภคยังเติบโต รวมถึง TDM ลุยขยาย Fleet รถจำนวนมากเพื่อรองรับการขยายสาขาของ CJ
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) (MENA) ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา นายณัฐพล ขจรวุฒิเดช กรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทำรายการซื้อหุ้น MENA ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (Big Lot) จำนวน 10 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.36% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 10 ล้านบาท โดยทำรายการซื้อจาก UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED (ผู้ดูแลทรัพย์สินให้กับ Capital Asia Investments Pte. Ltd. บริษัทจัดการกองทุน)
ทั้งนี้เพื่อเสริมความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั่วไป และมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจโดยรวมของบริษัทฯ ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายทุกอย่างตามพันธกิจที่วางไว้ ซึ่งการที่ราคาหุ้น MENA ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย แต่หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน และการเติบโตในอนาคตแล้ว จึงขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพและความมั่นคงของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว
สำหรับทิศทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2567 จากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวขานรับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการขยาย Fleet รถรองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป (CJ)
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมการก่อสร้างปีนี้จะดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก Fleet ที่มีอยู่
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon