มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาร่วงลงปิดแดนลบอีกครั้ง เผชิญแรงขาย จากหุ้นกลุ่มเทคฯ ขนาดใหญ่ (Tesla -5.3%, Palantir -4%, Nvidia -3.4%) เพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุม Fed วันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.50% ก่อนจะปรับลดลงในการประชุมเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังรอจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล ประธาน
Fed และ Dot Plot ของเจ้าหน้าที่ Fed รวมถึงตัวเลขคาดการณ์ GDP-อัตราว่างงาน-เงินเฟ้อ จะไปในทิศทางใด ท่ามกลางรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สร้างความกังวลว่าอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ความไม่แน่นอนมาตรการภาษีศุลกากรของปธน. ทรัมป์ อาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อสูงในสหรัฐ อีกทั้ง ยังคงสร้างความผันผวนให้กับตลาดจนกว่าจะถึงวันที่มีผลบังคับใช้ (2 เม.ย.) ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างราคาทองคำ COMEX เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ปิดทำนิวไฮ (+1.2%) แตะ 3,040.8 US$/t oz.
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.2%) ได้ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด จากแรงหนุนของความไม่
สงบในตะวันออกกลางและการที่จีนเตรียมแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา แม้การเจรจาระหว่างปธน. ปูตินและทรัมป์จะบรรลุข้อตกลงระงับการโจมตีเป้าหมายพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในยูเครน 30 วัน ส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐผ่อนคลายลง และทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบกว่า 1% ติดตามรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันจาก EIA คืนนี้
ด้านตลาดหุ้นยุโรปยังคง Outperform ตลาดหุ้นภูมิภาค โดยดัชนี STOXX600 (+0.6%) และ
FTSE100 (+0.3%) นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ ก่อนการประชุม BOE ในวันพฤ. (20 มี.ค.) ที่ตลาดคาดว่าจะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.50% เช่นเดียวกัน
• SET Index : เราคาดว่า SET Index ยังคงแกว่งผันผวนในกรอบ 1,160-1,180 จุด
วันนี้จับตาผลการประชุมของธนาคารกลาง BOJ คาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ส่วนการประชุม
FOMC คาดว่าคณะกรรมการเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% โดยผลการประชุม
จะทราบในวันพรุ่งนี้เช้า (เวลาไทย) อย่างไรก็ดี ตลาดน่าจะให้ความสนใจกับการแถลงของประธานเฟด และรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณและทิศทางดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ต่อไป จับตาทิศทาง USD และ US Bond Yied อาจปรับตัวขึ้น หากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย (Fund Flow ไหลออก) สำหรับในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ 1) การประชุมของธนาคารกลาง BOJ (วันนี้) / FOMC และ Dot Plot ของเฟด (คืนนี้) / BOE (พรุ่งนี้) 2) สถานการณ์เกี่ยวกับนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯและประเทศคู่ค้า 3) ทิศทาง Fund Flow
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ควรติดตาม ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองและผลการสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
• หุ้นแนะนำ
SCB : หุ้นปันผลที่น่าสนใจ โดยธนาคารจะจ่ายเงินปันผล 2H24 ที่ 8.44 บาท/หุ้น (yield 6.8%)
และคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังสูงที่ 8.8% ในปี 2025
(Take profit : 127.50 / Stop loss : 119.0)
WHA : การชะลอแผนการทำ IPO-WHAID ออกไป ช่วยปลดล็อก Overhang ต่อหุ้น อย่างไรก็ดี เรามองว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและกำไรสุทธิน่าจะเติบโตสูงขึ้นในปี 2025
(Take profit : 3.80 / Stop loss : 3.42)
Link : https://resmail.cgsi.com/l/763223/2025-03-18/2spmtzy
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon