บจ. แห่ซื้อหุ้นคืน

520

ตลาดหุ้นสหรัฐวิ่งขึ้นทำสถิตินิวไฮ ตลาดหุ้นยุโรปขยับตาม ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยค่อยๆ ไต่ระดับ จะกลับไปทดสอบ 1,800 จุดกันอีกรอบ (นักวิเคราะห์ว่าอย่างนั้น)

แต่หันไปมอง “ราคาหุ้นบางตัว” กลับสวนทาง ร่วงเอ๊า ร่วงเอา จนผู้บริหารทนไม่ไหว ต้องออกมาตรการพยุงราคา จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ด้วยการประกาศ “ซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน” ซึ่งนิยมนำมาใช้กัน

ล่าสุด บมจ. แม็คกรุ๊ป หรือ MC จัดประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2561 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ในวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 8,000,000 หุ้น คิดเป็น 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อคืน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.2561 ถึงวันที่ 11 มี.ค.2562
ก่อนนั้น 1 วัน บมจ. ทาพาโก้ หรือ TAPAC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 7,559,000 หุ้น หรือ 1.83% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาซื้อคืน ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.2561 ถึงวันที่ 9 มี.ค.2562

ส่วนที่เกรียวกราวมากสุด คงไม่พ้น บมจ. บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY เพราะก่อนจะมีมติประกาศซื้อหุ้นคืน ราคาหุ้นดิ่งหนัก หลังจากที่ผู้บริหารออกมารับยอมรับผลงานช่วงไตรมาส 2/2561 จะ “ดร็อปลงเล็กน้อย” เท่านั้นแหละ มือที่มองไม่เห็น หรือไม่อยากให้เห็นก็ไม่รู้ ทุบเปรี้ยงๆๆๆ จนราคาหุ้นวันนั้นลงไปติดฟลอร์ จาก 13.10 บาท เหลือ 9 บาท หรือลดลง 30% ในวันเดียว

สุดท้าย วันที่ 9 ก.ค.2561 คณะกรรมการบริษัทประชุม และมีมติประกาศรับซื้อหุ้นคืน โดย BEAUTY ประกาศรับซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 950 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 64,000,000 หุ้น หรือ 2.13% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2561 ถึงวันที่ 23 ม.ค.2562

นอกจากนี้ยังมี บจ.อีกหลายแห่งที่ “ซื้อหุ้นคืน” เช่น บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส หรือ FSMART, บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL, บมจ. โรงพยาบาลลาดพร้าว หรือ LPH เป็นต้น

ซื้อคืนแล้ว จะไปบริหารทางการเงินแบบไหน และราคาหุ้นจะตอบรับในเชิงบวกหรือไม่… บอกยาก

 

“บิ๊กเซ็ต”