ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. บีซีพีจี หรือ BCPG ผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้า โดยนายชาญวิทย์ ตรังอดิศัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ส่ยงานพัฒนาธุรกิจองค์กร เผยว่า งบลงทุน 5 ปี (2562-66) ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) 39,000 ล้านบาท สำหรับขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และตั้งเป้า EBITDA เติบโตปีละ 15-20% และเติบโตเป็น 1.5 เท่าภายใน 5 ปี
สำหรับผลประกอบการช่วงไตรมาส 3/61 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/61 และช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากคาดว่าจะรับรู้กำไรจากการขายโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 2 โครงการ มูลค่าราว 3,185 ล้านบาท ประกอบกับรับรู้รายได้จากการเริ่มผลิตไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ (โซลาร์ราชการ) กับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ที่บริษัทเป็นผู้ร่วมลงทุน 2 โครงการ รวมกำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ เริ่ม COD แล้วในเดือน ก.ค.61
รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในอินโดนีเซีย ได้รับค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งยังส่งผลเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/61 และส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดีกว่าปี 2560
ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) แล้ว 407 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนา 134 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นพลังงานลมที่ภาคใต้ 10 เมกะวัตต์ COD ปี 62 โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น 100 เมกะวัตต์ ทยอย COD ปี 62 และพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย 24 เมกะวัตต์ ทยอย COD ปี 63-64
อีกทั้ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอยู่หลายและพิจารณาโครงไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม และโซลาร์ฟาร์ม ทั้งในเวียดนาม ลาว และ ออสเตรเลียรวมกันกว่า 300 เมกะวัตต์ คาดจะปิดดีลให้ได้อย่างน้อย 1 โครงการภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมลงทุนโซลาร์รูฟท็อปขายไฟฟ้าให้เอกชนกว่า 40 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้
www.mitihoon.com