BDMS Wellness Clinic ร่วมเวที Shanghai International Medical Tourism Fair ครั้งที่ 23 เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลาง Wellness ระดับโลก

21

มิติหุ้น – กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 23 เมษายน 2568 – บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS  นำโดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก ผ่านกิจกรรม Roadshow ในหัวข้อ “Wellness Hub Thailand: The Future of Global Wellness” ในงาน Shanghai International Medical Tourism Fairครั้งที่ 23 Shanghai Exhibition Center นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

สังคมสูงวัยกับอนาคตสุขภาพจีน: ความเชื่อมโยงระหว่างการมีอายุยืนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในประเทศจีน

ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาได้ช่วยยืดอายุขัยของมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ โดยระหว่างปี พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2562 อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกเพิ่มขึ้นจาก 66.8 ปี เป็น 73.4 ปี เพิ่มขึ้นถึง 6.6 ปี อย่างไรก็ตาม “ช่วงชีวิตที่มีสุขภาพดี” หรือ Health Span ซึ่งหมายถึงระยะเวลาที่ทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่เจ็บป่วย กลับเฉลี่ยอยู่เพียง 63.7 ปีเพียงเท่านั้น นั่นหมายความว่า หลายคนใช้ชีวิตในภาวะสุขภาพถดถอยเกือบหนึ่งทศวรรษก่อนเสียชีวิต

ท่ามกลางแนวโน้มอายุขัยของมนุษย์ที่เพิ่มสูงขึ้น สังคมทั่วโลก รวมถึงประเทศจีน กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญจากการก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างเต็มรูปแบบ โดยปัจจุบันมีประชากรชาวจีนประมาณ 20% ที่มีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างประชากรในครั้งนี้ ได้ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวด้าน “การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน” อย่างแพร่หลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ควบคู่ไปกับการมีอายุยืนอย่างมีสุขภาวะที่ดี

ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเป็นวงกว้างในครั้งนี้ คือการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable Diseases – NCDs) ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2565 โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากถึง 90% ของประชาชนชาวจีน คิดเป็นจำนวนกว่า 9,058,000 รายต่อปี หรือมีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ย 1,034 รายต่อชั่วโมง โดย 6 โรคหลักที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอัลไซเมอร์

นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเหล่านี้ ไม่เพียงแต่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่โลกต้องเผชิญกับการระบาดของโรคติดต่อรุนแรง เช่น โควิด-19 โดยเราพบว่าผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ขณะที่ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือเบาหวานมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และที่น่ากังวลที่สุดคือผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 7 เท่า”

“โรคอ้วนไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น หากแต่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว ปัจจุบันมีผู้ใหญ่ทั่วโลกประมาณ 44% ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน โดยในประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 38.9% ซึ่งการจัดการกับปัญหาโรคอ้วนอย่างจริงจังจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคแทรกซ้อนและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต” นายแพทย์ตนุพล กล่าวเพิ่มเติม

ไทยขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งเศรษฐกิจเวลเนสโตเร็วสุดในโลก ย้ำศักยภาพสู่การเป็น Global Wellness Hub

จากรายงานล่าสุดโดย Global Wellness Institute (GWI) ระบุว่า เศรษฐกิจเวลเนส (Wellness Economy) ของประเทศไทยในช่วงปี 2565–2566 เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยอัตราการขยายตัวสูงถึง 28.4% มีมูลค่าสูงถึง 40.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท โดยในบรรดา 11 กลุ่มอุตสาหกรรมเวลเนสหลักของประเทศ กลุ่มที่เติบโตสูงสุดคือ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 415,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 119.5% ซึ่งถือเป็นอันดับสองของโลก รองจากประเทศจีนในปี 2566

ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความสำเร็จเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึง ศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง Wellness ระดับโลก ทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติ บริการด้านสุขภาพ และประสบการณ์ที่เชื่อมโยงสุขภาวะกับวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว โดยจากข้อมูลสถิติปี 2567 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางมาถึงประเทศไทยกว่า 7 ล้านคน และคาดว่าในปี 2568 จำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้านคน เติบโตขึ้นถึง 11.4% จากปีที่ผ่านมา

ด้วยเหตุนี้ BDMS Wellness Clinic นำโดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ จึงเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันแนวคิดด้านสุขภาพเชิงป้องกัน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งบริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยหนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญล่าสุดคือการเข้าร่วมงาน Shanghai International Medical Tourism Fair ครั้งที่ 23 ส่งมอบความรู้ภายใต้หัวข้อ “Wellness Hub Thailand: The Future of Global Wellness” ซึ่ง BDMS Wellness Clinic ได้นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และแนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมาถ่ายทอดแก่ผู้เข้าร่วมงานเพื่อขยายเครือข่ายความร่วมมือและสร้างการรับรู้ในตลาดสุขภาพระดับนานาชาติ โดยเฉพาะด้านการวางแผนดูแลสุขภาพตามลักษณะพันธุกรรม ไลฟ์สไตล์ และความเสี่ยงเฉพาะบุคคล ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการแพทย์ยุคใหม่ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และส่งเสริมคุณภาพชีวิตในระยะยาว

ทั้งนี้ BDMS Wellness Clinic ยังคงเดินหน้าดำเนินบทบาทในฐานะหนึ่งในกำลังสำคัญของ #TeamThailand ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อร่วมผลักดันศักยภาพของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการด้านสุขภาพของไทยในเวทีสากล ให้ผู้คนทั่วโลกมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BDMS Wellness Clinic ได้ที่  https://www.bdmswellness.com/

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon