หุ้นไทยพยายามสร้างฐานพยุงไม่ให้หลุด 1,680 จุด

109

หุ้นไทยสู้สุดชีวิต พยายามสร้างฐาน 1,680-1,690 จุด ให้แน่น พยุงไว้ไม่ให้หลุด 1,680 จุด พยายามดึง SET ขึ้นมา ให้ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ที่ 1,680, 1,675 จุด ให้ได้ มิฉะนั้นทางเทคนิคอาจกระตุ้นให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ของ Robot Trader เทขายหุ้น กดดัชนีลงต่อไปทดสอบ 1,660, 1,650 จุด ซึ่งเป็นแนวรับด่าน 2 ถ้ารับไม่อยู่ มีหวังลงต่อไปเจอกันแถว 1,630 จุด

ระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา Volume หุ้นไทยหดหายลงไปเรื่อยๆ จากเดิมวันละ 5-6 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ เหลือเพียงวันละ 35,000 – 40,000 ล้านบาท เท่านั้น Volume ยิ่งหด ศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทย ก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ Volume น้อย ยากที่จะดันดัชนีกลับขึ้นมาใหม่ได้

นักลงทุนไทยมองซ้ายขวาแล้ว เห็นกองทุนฝรั่งยังเดินหน้าขายหุ้นออกมาทุกวัน รวมทั้งกองทุนไทยที่เคยซื้อยัน คอยพยุงดัชนีไม่ให้ลดลงมากเกินไป ก็เริ่มหดหาย อ่อนแรงลงทุกวัน แค่ซื้อพยุงดัชนีเล็กๆ น้อยๆ ไม่กล้าทุ่มซื้อเหมือนเดือนก่อน ดูจากกราฟแล้ว แรงขายที่กดดันดัชนีลงมาจาก 1,700 จุด มีกำลังเหนือกว่าแรงซื้อเยอะ บ่งชี้แนวโน้มมีสิทธิ์ร่วงต่อค่อนข้างมาก

ปัจจัยที่ยังสร้างความกังวลใจให้นักลงทุน ประกอบด้วย

  1. นโยบายและท่าทีของ Donald Trump ที่ยังแข็งกร้าวต่อประเทศจีน ออกข่าวจะขึ้นภาษีขาเข้ารอบใหม่อีก 267 พันล้านเหรียญต่อประเทศจีน และไม่ยอมลดราคาวาศอกให้ EU และ CANADA ทำให้ตลาดหุ้นไม่ชอบเลย การเจรจากับจีน, แคนาดา, EU ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าที่ดีขึ้นเลย
  2. FED ยังคงยืนยันจะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ อีก 0.25% ในเดือน ก.ย.นี้ และจะขึ้นอีก 0.25% ในเดือนธ.ค.ปีนี้ กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงวิ่งขึ้นต่อไป กดเงินของประเทศ EM ให้อ่อนตัวลงต่อไป ลีราตุรกี, เปโซอาร์เจนติน่า, รูเปียห์อินโด, รูปีอินเดีย, รูเบิลรัสเซีย, เปโซฟิลิปปินส์ , แรนด์ แอฟฟริกาใต้, ริงกิตมาเลเซีย และหยวนจีน อ่อนลงต่อไป
  3. กระแสเงินทุนไหลออกจากปะเทศ EM ยังคงดำเนินต่อไป สภาพคล่องของกลุ่มประเทศ EM เหือดแห้งและหดหายลงไปเรื่อยๆ ธุรกิจ EM ล้มหายไปมากขึ้นเรื่อยๆ ดอกเบี้ยสูงขึ้น, เงินเฟ้อสูงขึ้น, ขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น, กู้หนี้มากขึ้น, จ่ายหนี้ลำบากขึ้นเรื่อยๆ
  4. ดูกระแสเลือกตั้งของไทยจะคลายล็อค ปลดล็อคการเมืองไทยได้แค่ไหน? คสช.จะยอมคืนอำนาจให้ประชาชนได้จริงหรือ? วันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 ยังคงเดิม หรือจะต้องถูกเลื่อนออกไปอีก? ถ้ายังไม่ชัดเจน หุ้นไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้เลย!!

โดยพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ