โรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 2” เผยความสำเร็จ เป็นต้นแบบการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

1890

คณะผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ (International Panel of Experts – POE) ของโครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ได้จัดทำรายงานต่อธนาคารโลก* ว่าการอพยพประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น  เป็นที่เรียบร้อยแล้วตามเงื่อนไขของสัญญาสัมปทาน ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2

การอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากความร่วมมือของรัฐบาลลาว และบริษัท ไฟฟ้า น้ำเทิน 2 จำกัด ซึ่งมีผู้ถือหุ้น ได้แก่ อีดีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว โครงการนี้ประกอบด้วยแผนสาธารณสุขแบบครบวงจร แผนการพัฒนาและดูแลประชาชน 100,000 คน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ปลายน้ำ การจัดตั้งเขตคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว (4,000 ตารางกิโลเมตร) ตลอดจนการอพยพประชาชนจังหวัด นากาย 6,300 คน ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาด 490 ตารางกิโลเมตร ไปอยู่ในพื้นที่ใหม่

โครงการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านการคุ้มครองและป้องกันของธนาคารโลกและธนาคารเพื่อพัฒนาแห่งเอเชีย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเงินกู้ให้แก่โครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ร่วมกับสำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Agence Française de Développement) ธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป และสถาบันการเงินอีก 27 แห่ง โครงการนี้ดำเนินการโดยรัฐบาลลาว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน  ซึ่งกระบวนการและผลการดำเนินงานมีการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก  จำนวนมาก ได้แก่ องค์กรพัฒนาระหว่างประเทศต่างๆ ผู้ให้กู้ของโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 และคณะผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ (POE) ตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นของโครงการตลอดอายุสัญญาสัมปทาน 25 ปี มีจำนวนมากกว่า200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ได้สนับสนุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับผู้อพยพทั้งหมด รวมทั้งศูนย์สุขภาพ 2 แห่ง      โรงเรียน 32 แห่ง และส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เช่น การทำป่าไม้ การเกษตร การประมง เป็นต้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนอย่างยั่งยืน  ซึ่งตลอด 13 ปีที่ผ่านมาของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลลาว โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 และประชาชนผู้อพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดนากายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย 97% ของประชาชนผู้อพยพมีรายได้ตามที่ตั้งเป้าหมายแล้ว นอกจากนี้ ค่ามัธยฐานของระดับการบริโภคของประชาชน ดีกว่าเส้นแบ่งความยากจนที่รัฐบาลกำหนดถึง 3 เท่า ประชาชนได้รับการดูแลด้านการรักษาพยาบาลและการศึกษา และได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่หลากหลาย

ผู้ถือหุ้นของโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 มุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ขึ้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวของจังหวัดนากาย แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 และแขวงคำม่วน จะร่วมกันบริหารจัดการเงินกองทุนมูลค่า 750,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 จะดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมทั้งการริเริ่มโครงการการระดมทุนแก่หน่วยงานท้องถิ่นจนถึงสิ้นปี 2578

www.mitihoon.com