KTAM จ่ายปันผล KT-PIF อัตรา0.30บาท/หน่วย เดินหน้าขายตราสารหนี้ตปท.1 ปีชูผลตอบแทน1.80 %

65

มิติหุ้น-KTAMจ่ายปันผลKT-PIFอัตรา0.30บาทต่อหน่วย เดินหน้าขายตราสารหนี้ตปท.1ปีชูผลตอบแทน1.80 % โดย นางชวินดา  หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า    บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้  แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล ( KT-PIF-D ) อัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย  ในวันที่ 16 ตุลาคม 2561   สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี  วันที่ 1  พฤษภาคม 2561 – 30 เมษายน  2562  จากผลการดำเนินงานสิ้นสุด   ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2561

           กองทุนมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม     โดยกองทุนจัดตั้งในเดือนกรกฎาคม 2559  มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 1.00  บาทต่อหน่วย

               สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง  ณ  วันที่ 28  กันยายน 2561    YTD (3ม.ค.-28ก.ย.61)  อยู่ที่ 9.71%  6  เดือนอยู่ที่ 7.32%  และ1 ปี อยู่ที่ 13.44%    สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(  Benchmark )   YTD อยู่ที่ 4.71%  6 เดือนอยู่ที่ 6.82%   และ1 ปี  อยู่ที่ 7.41%

               นอกจากนี้  บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 204( KTFF204)  เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่  16 ตุลาคม 2561  อายุโครงการ 12 เดือน   เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80   ซึ่งประกอบไปด้วย เงินฝากประจำของAgricultural   Bank  of China  ,  Bank  of China  ,   China Construction Bank Asia   ,  AL Khalij Commercial  Bank  , Commercial Bank  PQSC บัตรเงินฝาก Industrial  and Commercial  Bank  of China , China Merchanyts Bank  ,  และ  MTN ของMashreq Bank    โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.80% ต่อปี  โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีหัก  ณ ที่จ่าย

            แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทน US Treasury โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 15,370 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps. มาอยู่ที่ 1.96% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 bps.มาอยู่ที่ 2.41% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps. มาอยู่ที่ 2.87% ต่อปี

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ตามแรงขายหลังอัตราการว่างงานเดือนกันยายนอยู่ในระดับ 3.7% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1969 ในขณะที่ก่อนหน้านั้นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่แข็งแกร่งเกินคาด การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ รวมถึงการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดา โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 bps. มาอยู่ที่ 2.88% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 bps. มาอยู่ที่ 3.07% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18 bps. มาอยู่ที่ 3.23% ต่อปี

www.mitihoon.com