ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. โดย นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ เผยว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะเป็นกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3 ล้านคน จากนายจ้างเกือบ 18,000 บริษัท จากผลสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าร้อยละ 60 ของสมาชิกที่เกษียณอายุ ได้รับเงินก้อนวันเกษียณไม่ถึง 1 ล้านบาท สวนทางกับงานวิจัยที่บอกว่า หากต้องการมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอสำหรับใช้ชีวิตหลังเกษียณ ต้องมีเงินขั้นต่ำสุดอย่างน้อย 3 ล้านบาท ดูแล้วน่าเป็นห่วง
โดยสาเหตุที่ทำให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีเงินไม่ถึงเป้าหมาย เป็นเพราะสมาชิกยังไม่เห็นความสำคัญและไม่รู้ว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงินที่จะต้องสะสมเพื่อให้มีพอไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ ทำให้สมาชิกหักเงินสะสมต่อเดือนน้อย บางรายลาออกจากกองทุนระหว่างทาง ที่สำคัญสมาชิกยังเลือกนโยบายลงทุนที่ให้ผลตอบแทนไม่มากพอที่จะทำให้เงินออมเติบโตจนถึงระดับเพียงพอสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณ”
“หัวใจสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้สมาชิกมีความรู้สึกเป็นเจ้าของในเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตนเองว่าเงินก้อนนี้เป็นของเรา เป็นเงินออมที่ต้องสะสมในทุก ๆ เดือน ถ้าสมาชิกรู้สึกเป็นเจ้าของจะเห็นความสำคัญ ก็จะหาความรู้เรื่องวิธีบริหารให้เงินก้อนนี้งอกเงย ดังนั้น ก.ล.ต. และพันธมิตร จึงได้ร่วมกันจัดโครงการบริษัทเกษียณสุขขึ้นมา เพื่อให้ความรู้และเครื่องมือการสื่อสารแก่นายจ้าง สำหรับนำไปดูแลลูกจ้างของตัวเอง ให้ออมเต็มพิกัด จัดแผนเป็น เห็นเงินเพียงพอ เพราะเชื่อมั่นว่าผู้ที่เข้าใจและใกล้ชิดกับลูกจ้างที่สุดคือตัวนายจ้างเอง” นายรพี กล่าวเสริม
โดยโครงการบริษัทเกษียณสุข เป็นความร่วมมือของ ก.ล.ต. ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่ให้บริการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เปิดรับสมัครบริษัทที่มีสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากกว่า 100 คนขึ้นไปเข้าร่วมโครงการ ซึ่งในปีแรก ตั้งเป้าหมายว่าจะมีนายจ้างเข้าร่วมโครงการ 100 บริษัท
www.mitihoon.com