อันดับที่ 1 BAFS บริการน้ำมันผ่านท่อ Q3 โต 3% คาดทั้งปีกำไรนิวไฮ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ BAFS ผู้ให้บริการน้ำมันอากาศยานผ่านท่อ โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ไตรมาส3/61 ยอดให้บริการน้ำมันอากาศยานผ่านท่อเติบโตเพิ่มขึ้นราว 3% หรือราว 1,461 ล้านลิตรเทียบกับไตรมาส3/60 อยู่ที่ 1,418 ล้านลิตร ส่วนไตรมาส2/61 อยู่ที่ 1,444 ล้านลิตร ขณะการให้บริการน้ำมันผ่านท่อ 9 เดือนอยู่ที่ 4,453 ล้านลิตรเพิ่มขึ้น 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,262 ล้านลิตร ส่วนภาพรวมทั้งปีคาดว่าจะเติบโต 4% หรือให้บริการน้ำมันอากาศยานผ่านท่อราว 5,990 ล้านลิตร เทียบกับปี 60 อยู่ที่ 5,747 ล้านลิตร ซึ่งมีโอกาสหนุนกำไรเติบโตทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) เนื่องจากการท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปี60 แม้ในบางช่วงของปีนี้จะชะลอตัวไปบ้างก็ตาม
อันดับที่ 2 KBANK ตั้งเป้าปี 62 สินเชื่อโต 5-7% พร้อมรักษา NIM อยู่ระดับ 3.3-3.7% โบรกให้เป้า 249 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โดย ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย เลขานุการบริษัทและรองกรรมการผู้จัดการอวุโส เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อปี 2562 จะเติบโตราว 5-7% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.3-3.5% Gross NPL อยู่ที่ 3.3-3.7% โดยคาดว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-Interest Income Growth) จะติดลบ 5-7% โดยสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-Interest Income Ratio) คิดเป็นประมาณ 35% ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป ระบุว่า ทางฝ่ายประเมินกำไร KBANK ปี 61 ไว้ที่ 41,000 ล้านบาท และปี 62 อยู่ที่ 48,000 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายที่ 249 บาท แนะนำ “ซื้อ”
อันดับที่ 3 DELTA ทุ่ม 3.05 พันลบ. ลงทุนสร้างโรงงานในอินเดีย คาดแล้วเสร็จปี 62
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) โดยนายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ เปิดเผยว่า คณะกรรมการอนุมัติการลงทุนเพิ่มเพื่อก่อสร้างโรงงานในเมือง Krishnagiri รัฐ Tamil Nadu ประเทศอินเดีย เป็นมูลค่าการก่อสร้าง 3,051 ล้านบาท คาดว่าเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 เ และคาดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นปี 2562 เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท อีกทั้งได้อนุมัติการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นมูลค่าประมาณ 939 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในเดือนธันวาคม ปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นปี 2562 เพื่อขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุว่า จากการประเมิน DELTA เชื่อว่าผลการดำเนินงานจะออกมาอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 76 บาท แนะนำ “ซื้อ”
อันดับที่ 4 GULF ร่วมทุนกลุ่มบริษัทรัฐบาลโอมาน หวังลุยโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังผลิต 326 MW
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF โดยนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท Gulf International Holding Pte.Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ดำเนินการชำระค่าหุ้นจำนวน 8.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับกลุ่ม บริษัท Oman Oil Company S.A.O.C (OOC) และรับโอนหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Duqm Power Company L.L.C.(DPC) จากกลุ่ม OOC ในสัดส่วนร้อยละ 45 โดยเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้า DPC ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 โดยมีกำหนดที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในระหว่างปี 2563 ถึงปี 2565 เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำจืดให้กับ Duqm Refinery and Petrochemical Industrial Company L.L.C.ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 230,000 บาร์เรลต่อวัน
อันดับที่ 5 TWPC จ่อกำเนิดดีล M&A ภายใน 4-5 เดือนนี้ ลั่นเงินทุนเหลือเฟือ พร้อมลงทุนต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าว ”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.ไทยวา หรือ TWPC โดย นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมปิดดีลซื้อกิจการ(เทคโอเวอร์) ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับมันสัมปะหลังรายใหญ่ ตั้งอยู่ในแถบ CLMV ภายในระยะ 4-5 เดือนนี้ 1 ราย เบื้องต้นคาดใช้เงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จากเงินสดในมือที่มีอยู่ราว 2,000 ล้านบาท ยังมีหนี้สินต่อทุน (DE) ระดับต่ำ จึงสามารถกู้สถาบันการเงินได้อีกจำนวนมากทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวนั้น จะหนุนในแง่ของวัตถุดิบให้เพิ่มขึ้น เนื่องด้วยอยู่ใกล้บริเวณเพาะปลูกผลิตผลของเกษตรกร และยังมีฐานลูกค้าที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งความต้องการสินค้าของบริษัทในประเทศจีนและประเทศเพื่อนบ้านยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครอบคลุม
www.mitihoon.com
