ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น “บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI” เช้านี้ปรับตัวลดลงถึง 4.44% (เปิด 9.40 บาท เทียบราคาต่ำสุดที่ 9 บาท) โดย “นายพีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทไม่ทราบสาเหตุว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงเพราะสาเหตุอะไร แต่ขอยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
โดยวันที่ 12 พ.ย.61 นี้ บริษัทจะประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) เพื่อสรุปผลประกอบการไตรมาส 3/61 และจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 13 พ.ย. 61 ซึ่งเบื้องต้นผลประกอบการจะเติบโตได้ค่อนข้างดี เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทได้วางเอาไว้ ล่าสุดเมื่อไตรมาส 2/61 แจ้งกำไรสุทธิ 1,019.38 ล้านบาท รายได้รวม 4,183.61 ล้านบาท และไตรมาส 3/60 มีกำไรสุทธิที่ 556.09 ล้านบาท รายได้รวมที่ 1,959.92 ล้านบาท
สำหรับทั้งปี 61 มั่นใจยอดขายจะเติบโตตามเป้าหมายที่ 24,000 ล้านบาท ซึ่งช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 61) ทำ
ยอดขายรวมแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท โดยเป็นผลจากโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “พาร์ค ออริจิ้น” แบรนด์คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ สามารถสร้างยอดขายได้ทะลุเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้
โดย “โครงการ พาร์ค ออริจิ้น พญาไท” มียอดขายแล้วกว่า 75% หรือมูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ “โครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ”สร้างยอดขายได้มากกว่า 40% หรือมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ “โครงการ พาร์ค 24” เฟส 1 มูลค่า 6,000 ล้านบาท ปัจจุบันโอนฯแล้วกว่า 75% ซึ่งเงินที่ได้ใช้ชำระคืนหนี้ธนาคารหมดแล้ว และ “โครงการ พาร์ค” เฟส 2 มูลค่า 11,100 ล้านบาท เริ่มส่งมอบ เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างเสร็จเร็วกว่าแผนที่กำหนด ปัจจุบันโอนฯกว่า 20% และเหลือคืนหนี้ธนาคารอีกจำนวน 2,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์เพิ่ม และชำระคืนหนี้ได้หมดภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ล่าสุด “โครงการ พาร์ค 24” ยังคงมียอดขายรอโอน (Backlog) อีกกว่า 4,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่อง และกระแสเงินสดหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เพียงพอกับการพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการซื้อที่ดิน เพื่อรองรับแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต